ไฟป่าไหม้หนัก หวิดคลอกคนทำแนวกัน หลังมีมือดีจุดไฟล่าสัตว์ PM2.5 พุ่งถึงขั้นวิกฤติ

ไฟป่าไหม้หนัก หวิดคลอกคนทำแนวกัน หลังมีมือดีจุดไฟล่าสัตว์ PM2.5 พุ่งถึงขั้นวิกฤติ

วันที่ 17 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไฟป่าที่ลุกไหม้อยู่บนดอยปุย สถานที่ตั้งเสาสถานีทวนสัญญาณของสถานีโทรทัศน์หลายช่อง ในเขตพื้นที่ตำบลท่าสาย อำเภอเมืองเชียงราย โดยไฟป่าได้ลุกลามเข้ามาเกือบถึงเสาส่งสัญญาณ ทำให้เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย, สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย, ฝ่ายปกครอง, มูลนิธิกระจกเงา และราษฎรอาสาดับไฟป่าในพื้นที่ ทำการควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดไว้ได้ จึงยังไม่กระทบกับระบบทวนสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนดอยปุย

ขณะที่ไฟป่าบนดอยจระเข้ เขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำตก ยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะดับสนิท โดยเฉพาะไฟป่าในท้องที่บ้านห้วยก้างปลา ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน ที่ยังคงลุกไหม้รุนแรง และเมื่อวานนี้เกือบเกิดเหตุสลด เพราะขณะที่เจ้าหน้าที่และราษฎรอาสาดับไฟป่าเดินเท้าขึ้นไปทำแนวกันไฟอยู่บนดอย โดยพบว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มจุดไฟเพื่อล่าสัตว์หรือหาของป่าจนทำให้ไฟลามขึ้นไปในจุดที่เจ้าหน้าที่ และราษฎรอาสากำลังทำแนวกันไฟจนต้องหนีไฟที่โหมไหม้จนเกือบจะถูกไฟคลอก

โดยทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ ขอให้งดจุดไฟในป่าในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด เพราะเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายกับเจ้าหน้าที่และราษฎรอาสาดับไฟป่า

สำหรับการตรวจพบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายในเช้าวันนี้ พบจุดความร้อนรวม 178 จุด กระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอต่างๆ ดังนี้ อ.แม่สรวย 46 จุด, อ.แม่จัน 31 จุด, อ.เมืองเชียงราย 22 จุด, อ.เวียงแก่น 19 จุด, อ.เวียงป่าเป้า 17 จุด, อ.พาน 12 จุด, อ.แม่ฟ้าหลวง 7 จุด, อ.เทิง 6 จุด, อ.เชียงของ 6 จุด, อ.เวียงเชียงรุ้ง 3 จุด, อ.ดอยหลวง 2 จุด, อ.ป่าแดด 2 จุด, อ.พญาเม็งราย 2 จุด, อ.เชียงแสน 1 จุด, อ.ขุนตาล 1 จุด และ อ.แม่ลาว 1 จุด มีเพียง 2 อำเภอคือ อ.แม่สาย และ อ.แม่ลาว เท่านั้นที่ไม่พบจุดร้อน

ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันจังหวัดเชียงราย ยังคงต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย, สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย, ทหาร, ฝ่ายปกครอง, มูลนิธิกระจกเงา และราษฎรอาสาดับไฟป่า กระจายกำลังเดินเท้าเข้าไปดับไฟในจุดที่สามารถเข้าไปดับได้ หากเข้าไปไม่ถึงเนื่องจากเป็นพื้นที่ภูเขาสูงชัน จะใช้วิธีการทำแนวกันไฟโดยรอบจุดที่เกิดไฟป่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดลุกลามขยายพื้นที่ถูกไฟไหม้ ขณะที่อากาศยานช่วยดับไฟช่วงนี้ สภาพหมอกควันที่ปกคลุมท้องฟ้าหนาแน่น เป็นอุปสรรคสำคัญเพราะกระทบต่อทัศนวิสัยการบิน จึงทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือกำลังภาคพื้นดินได้

ด้านสถานการณ์หมอกควันฝุ่นพิษในจังหวัดเชียงรายยังวิกฤติ โดยเฉพาะชายแดนไทย-เมียนมาทางด้านอำเภอแม่สาย ซึ่ง ณ เวลา 08.00 น. ของเช้าวันนี้ กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการวัดปริมาณฝุ่น PM2.5 ได้สูงถึง 240 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อยแต่ว่ายังสูงที่สุดใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ขณะที่ชายแดนไทย-ลาวทางด้านอำเภอเชียงของวัดได้ 191 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนอำเภอเมืองเชียงรายวัดได้ 186 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้คุณภาพอากาศทั่วทั้งจังหวัดเชียงรายยังคงเป็นสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ

ข่าวโดย ณัฐวัตร ลาพิงค์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงราย

เรียบเรียง สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ