จากกรณีที่เรือประมงพื้นบ้านโดนพายุพัดเรือประมงพื้นบ้านอับปางในหลายพื้นที่ ทั้งใน ต.แหลมตะบุมพุก ต.บางพระ ต.ขนาบนาค อ.ปากพนัง ต.ท่าศาลา ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา และ ต.สิชล ต.ทุ่งไสย อ.สิชล ในเบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บกว่า 10 คน ผู้เสียชีวิต 1 รายในพื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง ส่วนในพื้นที่ อ.สิชล เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือรอดตายมาได้ 3 คน แต่ยังสูญหายอีก 1 คน ในขณะที่นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่ารการจังหวัดนครศรีธรรมราช

พร้อมนางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดและประธานแม่บ้านมหาดไทย ได้ลงไปจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก และอยู่อำนวยการสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนำนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 17 เม.ย. ความหน้าที่ในการค้นหาชาวประมง 1 คนที่สูญหาย ทราบชื่อนายกูหมาด ไทรบุรี 41 ปี ได้มีการระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ ปภ.สิชลหน่วยกู้ชีพ กู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กสิชล กู้ภัยเพชรเกษม กู้ภัยสยามปู่อินทร์ กู้ภัยซีบี ช่วยกันออกค้นหาต่อเนื่อง จนถึงเวลา 22.30 น.ยังไม่พบจุงยุติการคนหาชั่วคราว ส่วนลูกเรือประมงลำเดียวกันอีก 3 คนที่เรือล่มก่อนถึงฝั่ง 100 เมตร เจ้าหน้าที่ฝ่าคลื่นลมลงไปช่วยเหลือเอาไว้ได้อย่างทุลักทุเล และนำส่ง รพ.สิชล ประกอบด้วยน นายอะบัย บังการู 53 ปี นายโสภณ ไวยฤทธิ์ 41 ปี และ ด.ช.อภิวัฒน์ ไทรบุรี 13 ปี ลูกชายของนายกูหมาด ไทรบุรี 41 ปีที่สูญหาย

ล่าสุด ร.ต.อ.พจน์ ยอดพิจิตร พงส. สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่าพบร่างนายกูหมาด ไทรบุรี ที่สูญหายแล้ว โดยร่างลอยอยู่บริเวณปากน้ำสิชล ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากจุดเกิดเหตุ 200 เมตร จึงได้จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญเชิญ ลิ่มประจวบพงษ์ ผกก.สภ.สิชล เรือตำรวจน้ำขนอม หน่วยป้องกันและปราบปราม ประมงทะเลสิชล เจ้าหน้าที่แพทย์จากโรงพยาบาลสิชลและมูลนิธิใต้เต็กตึ้ง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จึงนำร่างขึ้นมาจากน้ำส่ง รพ.สิชล เพื่อให้แพทย์ชันสูตรพลิกร่างตามขั้นตอนต่อไป

ทางด้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่อำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามสถานการณ์ และบัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกับนายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชท และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ตำรวจน้ำ ศรชล. ประมง หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย มูลนิธิต่าง ๆผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ให้การสนับสนุน และที่สำคัญได้มีการประสานงานกับ พลเรือโท จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผบ.ทัพเรือภาค 2 ขอสนับสนุนเรือตรวจการ จำนวน 2 ลำ เพื่อปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย

และประสาน พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ สั่งการให้ บน. 7 สุราษฎร์ธานี สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 ลำ เพื่อปฏิบัติการค้นหาทางอากาศในการระบุเป้าหมายและสนับสนุนการกู้ชีพกู้ภัย และใช้สนามเฮลิคอปเตอร์ของสำนักชลประทานที่ 15 ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นสถานที่ลงจอดเพื่อลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ซึ่งตลอดช่วงของการปฏิบัติการ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โทรศัพท์มาสอบถามสถานการณ์และกำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ทุ่มเทสรรพกำลังในการช่วยเหลือค้นหาผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด

ทางด้าน ปภ.นครศรีธรรมราช ได้สรุปเหตุการณ์พายุพัดถล่มในทะเลอ่าวไทย โดยว่าพื้นที่อำเภอปากพนัง มีเรือออกจากฝั่ง 48 ลำ ลูกเรือ 121 คน พบทั้งหมด โดยมีผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาใน รพ. 2 คน และเสียชีวิต 1 คน เรือล่ม 10 ลำ ,อำเภอท่าศาลา มีเรือออกจากฝั่ง 3 ลำ ลูกเรือ 5 คน เรือขึ้นฝั่งได้ทั้งหมด มีผู้บาดเจ็บ 4 คน / อำเภอสิชล เรือออกจากฝั่ง 1 ลำ ลูกเรือ 4 คน ช่วยเหลือได้แล้ว 3 คน เสียชีวิต 1 คน, อำเภอหัวไทร เรือออกจากฝั่ง 1 ลำ ลูกเรือ 3 คน ช่วยเหลือได้ทั้งหมด / อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เรือออกจากฝั่ง 8 ลำลูกเรือ 16 คน เรือขึ้นฝั่งได้ทั้งหมดพบลูกเรือทั้งหมดโดยบาดเจ็บ 1 คน เสียชีวิต 1 คน โดยจะตรวจสอบและรวบรวมความเสียหายที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัย รัฐบาลพร้อมจะดูแลช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้ พร้อมชื่นชมชาวประมงที่สวมใส่ชูชีพในขณะออกทำการประมง ทำให้ไม่เกิดความสูญเสียมากนัก

ข่าวโดย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช

เรียบเรียง สยามนิวส์