ล่าสุด น้ำเงิน บุญหนัก ตำนานกระสือในวัย 83 ปี จริงๆแล้วเป็นหลานเจ้าพระยา
เป็นอีกหนึ่งดาราอาวุโสที่อยู่ในวงการบันเทิงมานานมาก สำหรับ น้ำเงิน บุญหนัก หรือ สวง จารุวิจิตร เป็นทั้ง นักแสดงและนักพากย์ชาวไทย ปัจจุบันอายุ 83 ปีแล้ว
น้ำเงิน บุญหนัก มีชื่อเล่นว่า เปี๊ยก เข้าสู่วงการการแสดงครั้งแรกเมื่อปี 2499 จากการชักนำของ ม.ล.ทรงสอางค์ ทิฆัมพร ผลงานแรกคือภาพยนตร์เรื่อง สาปสวรรค์ เมื่อ พ.ศ. 2498 โดยใช้ชื่อในวงการว่า ดาวรุ่งฟ้า ประกบกับ ส.อาสนจินดา,เชาว์ แคล่วคล่อง และ จุฑารัตน์ จินรัตน์ โดยรับบทเป็น รุ่งทิพย์ นางเอกวัยเด็ก และมีชื่อเสียงจากเรื่องชาติเสือ แสดงกับ มิตร ชัยบัญชา และเรวดี ศิริวิไล ออกฉายเมื่อ พ.ศ. 2500 จากนั้นก็มีผลงานตามมาอีกเรื่อยๆ น้ำเงินได้รับรางวัลตุ๊กตาเงินสาขานักแสดงหญิงสมบทยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง นางสาวโพระดก เมื่อ พ.ศ. 2508 และได้รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขาเดียวกัน จากภาพยนตร์เรื่อง กาเหว่า เมื่อ พ.ศ. 2509
ต่อมา ป้าน้ำเงินได้แสดงละครโทรทัศน์ด้วย ได้รับบทบาทเด่น เป็นต้นว่า กระสือยายสาย ในละครเรื่อง กระสือ ทางช่อง 7 เมื่อ พ.ศ. 2537 เมื่อสูงวัยขึ้นจึงเปลี่ยนไปรับบทเป็นนักแสดงประกอบและนักแสดงสมทบ เช่น ในละครเรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง ทางช่อง 7 เมื่อ พ.ศ. 2538
แม่เปี๊ยกเล่าถึงการเล่นละครเรื่องแรกว่า ป้าแสดงตั้งแต่ยังสาวๆ เล่นเป็นลูกป๋าส. อาสนจินดา เข้าวงการมาก็เล่นหนังเรื่องแรก ก็ได้เล่นเป็นนางเอกตอนเด็ก ชื่อ น้ำเงิน บุญหนัก ป๋าแกก็เป็นคนตั้งให้ ตอนนั้นเล่นกับ พี่มารศรี ณ บางช้าง ตอนนั้นกำลังแตกเนื้อสาว ตอนนั้น ไม่ได้ตั้งใจเล่นหนังอาจเพราะดวง คือคุณพ่อรับราชการ ท่านก็ถามว่าโตขึ้นจะเรียนอะไร ก็บอกว่าเรียนหมอ แต่วันหนึ่งไปที่กองดุริยางค์ทหารบก กับเพื่อน เขามีดนตรีก็วัยรุ่นนะไปเที่ยวฟังดนตรีกัน ปรากฏว่าไปเจอ หม่อมหลวงทรงสอางค์ ทิฆัมพร สามีท่านเป็นนายทหารใหญ่ ท่านคุมตรงนั้น แล้วท่านก็เรียกให้ไปพบ ท่านก็จับที่แก้มเปิดผมดู และถามว่าเล่นหนังไหม ก็นึกในใจ เอ๊ะ..เข้าท่าดีเหมือนกันนะ (หัวเราะ) แต่ว่าจะต้องไปถ่ายที่ราชบุรี ถ้ำจอมทอง
เพราะว่าในเรื่องจะต้องถูกขังอยู่ที่นั่น ก็เลยลองเสี่ยงดูซึ่งหม่อมหลวงทรงสอางค์ท่านเป็นผู้สร้างหนังหนังเข้าฉายที่โรงหนังแกรนด์ก็ถือเป็นการแจ้งเกิดในการแสดง นางเอกหน้าใหม่
หลังจากนั้นป๋า ส. กับครูเนรมิต ก็เลยปรึกษากันว่าเรื่อง สาปสวรรค์ ไปถ่ายตามป่าตามเขาเปลี่ยนชื่อให้เปี๊ยกดีกว่าเป็น น้ำเงิน บุญหนัก ทุกวันนี้ก็ใช้ชื่อนี้ในการแสดงมาตลอด ชื่อเดิมตามบัตรประจำตัวประชาชนชื่อเหมือนป๋าต๊อกเลย (หัวเราะ) คุณยายเป็นคนตั้งให้ คือคนโบราณชอบพูดคำเดียว ตอนที่เกิดก็ถามว่าเด็กคนนี้ชื่ออะไรคุณยายก็บอกว่า สวง เลยเป็นสวงจนถึงทุกวันนี้ และในบัตรประชาชนก็ยังเป็นชื่อเดิมที่คุณยายตั้งให้
แม้จะอายุเลข 8 แต่ยังไหว ป้าขับรถมากองถ่ายเองนะ ไปถ่ายจังหวัดใกล้ๆ ก็ขับรถไปเอง บอกให้กองแฟ็กซ์ แผนที่มา ที่เหลือก็จะจัดการเอง แกะแผนที่เก่งออก (หัวเราะ) ไปถ่ายชาติเสือพันธุ์มังกร มายังถูกผีหลอกที่นครนายกเลย (หัวเราะ) ขับรถตั้งแต่อายุ 17 แล้ว ก็จะชิน ไปไหนมาไหนก็จะไปคนเดียว ถ้ามีคนมานั่งด้วย จะขับรถไม่เป็นเลย เดี๋ยวกลัวว่าขับไม่ดี ก็จะไปคนเดียว ปีนี้อาจจะมีไม่ไหวมาก แต่ก็จะหาอะไรมาช่วยไม่ให้หลับ ไม่งั้นวูบแน่ๆ
อย่างกองละคร หลายๆ กองก็จะมีรถตู้มารับ ป้าก็ไม่อยากให้เขามาเสียเวลาก็จะไปเองดีกว่า ไม่กลัวอะไร คือถ้าเป็นคนไม่กลัว ใจแข็งกลัวอย่างเดียว คือกลัวผี... ตั้งแต่ขับรถมาไม่เคยชนใครด้วย เพราะว่าเป็นคนรอบคอบอันไหนสมควรเร็วไหม ไม่ใช่ว่าเหยียบคันเร่งอย่างเดียวตรงไหนมีซอกมีซอย ก็ต้องระวัง เพราะว่าสมัยนี้ขับยาก มอเตอร์ไซค์เยอะ
ครั้งหนึ่งเเม่เปี๊ยกเคยเล่าว่า คุณปู่นั้นเป็นเจ้าพระยา หรือว่าคุณพระอยู่กับร.6คุณปู่เราก็เหมือนเป็นมือขวาคนสนิท เป็นคนจัดเรื่องเขียนละคร และท่านก็ได้เต็มเลยอยู่ที่บ้าน แล้วนามสกุลเดิมของเรา จารุวิจิตร เป็นนามสกุจากร. 6 ก็เลยคิดว่าตัวเองน่าจะได้มาจากคุณปู่ คุณพ่อเป็นราชการ คุณแม่เป็นคนจีน