เปิดคำพูดพีระพันธุ์ เล่าสาเหตุที่เล่นการเมือง แต่ละประโยค นับถือหัวใจเลย
หากจะเอ่ยถึงมือกฎหมายคนสำคัญระดับประเทศ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อของนักการเมืองรุ่นเก๋าอย่าง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รวมไทยสร้างชาติ
ทว่านอกเหนือจากเส้นทางการเป็นนักกฎหมายซึ่งเริ่มต้นที่ตำแหน่งผู้พิพากษา ก่อนเข้าสู่แวดวงการเมืองครั้งแรกในปี 2539 ในฐานะ ส.ส.กทม.แล้ว น้อยคนนักที่จะรู้ว่าหากไม่เบนเข็มมาทางงานด้านกฎหมายและแวดวงการเมืองเสียก่อน วันนี้เราอาจมีนักบินขับไล่ที่ชื่อ พีระพันธ์ุ ก็เป็นได้
ซึ่งมีช่วงนึงที่ พีระพันธุ์ ได้เผยว่า จะเห็นผมอยู่ซีกการเมืองโดยตลอด เพราะว่าสำหรับผม คำว่าการเมืองไม่จำเป็นต้องเป็นส.ส.หรือต้องอยู่ในพรรคการเมืองตลอดเวลา สำหรับผมการทำงานการเมืองคือการทำงานให้ประชาชน
รวมถึงยังคิดเรื่องกฎหมายการแก้กฎหมายตลอด คิดว่านี่คือการเมืองเช่นกัน มันเป็นชีวิตจิตใจ ยังไงผมก็ทำแม้ผมจะไม่ได้เป็นส.ส. การเมืองไม่ใช่เพียงแค่ทำงานสภาฯ ไม่อยู่สภาฯแล้วไม่ใช่นักการเมืองอันนี้คงไม่ใช่ คิดว่าอยู่ที่การทำงานเพื่อส่วนรวมมากกว่า
ตรงนี้เหมือนเป็นชีวิตจิตใจผมไปแล้ว ถามว่าจะหยุดคงหยุดยาก ถามว่าวางตรงนี้ไปจะไปทำอะไรคงคิดไม่ออก ตรงนี้เราทำด้วยใจเมื่อเราทำด้วยใจคงไม่มีการวางมือ เพียงแต่วันไหนไม่มีแรงแล้วเราค่อยว่ากัน
ทราบมาว่าก่อนหน้านี้เคยมีความฝันที่จะเป็นนักบิน?
ความฝันผมไม่ใช่แค่นักบินพลเรือนขับเครื่องบินใบพัดเท่านั้น แต่ฝันที่จะเป็นนักบินขับไล่ตั้งแต่เด็ก อยากเป็นทหารอากาศ ไปสอบเตรียมทหารผ่านหมดเลย แต่ไปตกเรื่องสายตา คือสายตาสั้น แต่ทำยังไงก็ใส่แว่นไม่ได้ ก็เลยคิดว่าคงเป็นชะตาชีวิตมากกว่า ชะตาชีวิตเขากำหนดไม่ให้เราเป็นทหารอากาศ เป็นนักบินขับไล่แบบที่ควรจะเป็น
แต่ก็โชคดีที่มีโอกาส อย่างตอนที่ฝูงบินธันเดอร์เบิร์ดของสหรัฐอเมริกามาบินโชว์ที่เมืองไทยผมก็ได้มีโอกาสนั่งในเครื่องบินขับไล่
เรียบเรียง สยามนิวส์