จากกรณีที่ แพรรี่ ได้ถูก ลีน่าจัง กระชากวิกผมต่อหน้าสื่อ โดยภายหลัง แพรรี่ ได้ไลฟ์สดตอกกลับการกระทำว่าต่ำทราม และเป็นการดูถูกเหยียดหยาม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา รายการตีท้ายครัว เปิดชีวิตจริงสุดเรียล ลีน่าจัง พาชมบ้านที่อยู่จริงมา 33 ปี ลีน่าจัง ที่มีภาพดุดันปากร้ายคนจ้างไปด่าครั้งละล้าน เผยถึงบ้านและเป็นคลินิกที่เปิดมา 4 ปี รักษาโรคแต่เป็นที่อยู่อาศัยอยู่มา 33 ปี

ลีน่าจัง ย้อนความหลัง เมื่อก่อนเป็นแม่ค้า ต้องนั่งนับเงิน วันหนึ่ง 10 กว่าล้าน เอาเงินใส่ถุงก๊อบแก๊บไปธนาคาร มันปลอดภัย คนคิดว่าขยะ จะได้ไม่มาปล้นเรา

ถามว่ายุครุ่งเรืองประตูน้ำ ลีน่าจัง ยอมรับว่า ขายดีมาก วันหนึ่งผลิตเสื้อผ้าหลายหมื่นตัว ลูกน้องเกือบ 5 พันคน (ตึก 6 ชั้น 2 ห้อง อยู่ยังไง) อยู่คนเดียว มา 20 ปี ลูกทนไม่ไหวเราปากร้าย ก็หนีไปอยู่ที่อื่น ในวัย 64 ก็ต้องอยู่อย่างมีความสุข พึ่งตัวเอง ตื่นมาตี4ก็ไลฟ์ เขาจ้างเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เดือนพฤศจิกา ฉันได้ตั้ง 10 กว่าล้าน แต่มา ธันวา มกรา กุมภา ตกงาน

ย้อนวัยเด็กลำบาก ไม่มีจะกินเลย อยู่วรจักร ต้องเอาอาหารเหลือจากร้านอะไหล่มาเทรวมกันเป็นจั๊บฉ่ายให้เรากิน ส่วนวันที่อู้ฟู่ของชีวิต ลีน่าจัง บอกว่า ขายเสื้อผ้าปี31-32 ฝรั่งต่างประเทศสั่งซื้อ ปีละ 2 พันล้าน ได้กำไร 100 ล้าน จนปี33 อิรักบุกปิดน่านฟ้า เราก็เจ๊ง

ก่อนจะพาไปชมชั้นต่างๆของบ้าน พิธีกรบ่นอุบกับบันไดวนกว่าจะขึ้นไปได้แต่ละชั้น ถึงกับถามว่าอยู่ได้ยังไง ก่อนจะเปิดตู้เย็นทำพิธีกรช็อกหนัก มีแต่อาหารที่เหลือเก็บแช่แข็ง เจ้าตัวยอมรับแช่ไว้เป็นปีก็มี เพราะชีวิตเคยจนมาก่อน กินอาหารเหลือก็มาเก็บไว้กินอีก ทำเอา มดดำ คชาภา พิธีกรทนไม่ไหวต้องให้ทีมงานขนของเหลือในตู้เย็นไปทิ้งทั้งหมด

เปิดห้องเสื้อผ้า ทำพิธีกรตกใจอีก เพราะไม่มีตู้เสื้อผ้า ใช้วิธีเก็บเสื้อผ้าใส่ถุงพลาสติกไว้ เจ้าตัวบอกว่า เพราะถ้าซื้อตู้ต้องเสียเงิน แล้วขนตู้ขึ้นมาลำบากเป็นบันไดวน

พาไปดูห้องนอนกว่าจะขึ้นมาได้ลำบาก แถมไม่มีห้องน้ำ จน มดดำ ถามว่าทำไมมีเงินไม่ทำบ้านให้ดีๆ อยู่สบายๆ ลีน่าจัง ตอบว่า ไม่มีตังค์ ตอนนี้อายุ 64 แล้ว ทำมาหากินไม่ไหวแล้วนะ เราต้องเก็บเงินไว้ เผื่อวันไหนโชคร้ายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจะได้จ้างพยาบาล2 คนมาเช็ดอุจจาระปัสวะให้เรา

ขอบคุณรายการ ตีท้ายครัว