หัวใจกลับมาเป็นสีชมพูอีกครั้งนะครับ สำหรับ ปู แบล็คเฮด นักร้องคนดัง ที่ก่อนหน้ามีภาพร่วม ทริปยุโรปกับ แจนจัง เจตสุตา เครือแตง อดีตสมาชิก BNK48 จึงทำให้หลายคนต่างจับตาถึงความรักครั้งใหม่

ที่ทั้งคู่นั้นมีอายุห่างกันมากถึง 23 ปี ด้าน แจนจัง เองก็ได้ออกมาบอกแล้วว่า ปู แบล็คเฮด เป็นแฟนของเธอแล้ว แต่อยากให้ไปถามฝ่ายชายเองว่า เธอเป็นแฟนหรือยัง

ล่าสุด ปู แบล็คเฮด ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า มีหลายกระแสเข้ามา แต่จะเลือกฟังในแง่ที่ไม่ได้บั่นทอนเรา มันไม่ใช่เรื่องผิด และมันไม่ใช่เรื่อง ที่น่าจะไปวุ่นวายกับชีวิตใครด้วย ส่วนที่ได้โคจรมาเจอกัน ตอนนั้นผมอยู่บ้าน และจมอยู่กับเรื่องชีวิตที่ผ่านมา

จนวันหนึ่งได้เล่นซีรีส์เรื่องเดียวกันและได้พูดคุยกัน ในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยได้ออกไปพบเจอใคร อยู่ในกองถ่ายมันใช้ระยะเวลานาน ก็ได้พูดคุยกันบ่อย ๆ จึงได้แลกเปลี่ยนอะไรกันหลาย ๆ ทัศนะ เรื่องราวที่พูดคุยกันจะไปในทิศทางเดียวกัน

สถานะตอนนี้ เป็นแฟนกันแล้ว จริง ๆ อยู่ในช่วงที่เราทั้งสองคนไม่มีใคร จะว่าพร้อมก็ได้ น้องเขาก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว เหมือนมีคนมาเติมเต็มให้ชีวิตเดินต่อไป ซึ่งน้องก็ยอมรับได้ว่าพี่มีความทรงจำอยู่ เขายินดีที่จะเข้ามาตรงนี้ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมโอเค

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ที่คนมองว่า เริ่มต้นใหม่เร็วจัง ปู แบล็คเฮด ได้กล่าวว่า ตนไม่ได้นับเลยว่าเร็วหรือช้า เพราะตอนที่คบกับนุ๊ก ก็อยู่ด้วยกันมาค่อนข้างเยอะ ตอนที่เขาเสียไปก็อยู่กับเขาแบบจม รู้สึก 1 วันเท่ากับ 1 ปีของคนปกติ เวลาที่จิตตก จะรู้สึกทรมานมาก ซึ่งตนอยู่กับตรงนี้มาเยอะพอสมควร แต่ไม่ได้เอาตรงนี้มาบอกว่า พร้อมแล้วที่จะเริ่มใหม่

แต่การเดินทางมาเจอกับน้องแจน มันไม่ใช่เรื่องที่กะเกณฑ์ได้ มันบังเอิญเดินทางมาเจอกัน ฉะนั้นถ้าปล่อยโอกาสไม่ให้ไปพบเจอ หรือพูดคุยกับใครเลยมันก็รู้สึกแปลก ๆ ตอนแรกก็จะปิดกั้นตัวเอง แต่พอมีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่เข้าใจ ให้กำลังใจ และศรัทธาในตัวเรา แล้วอย่างนี้จะไม่จับมือเขาไว้เหรอ

ที่ผ่านมานุ๊กเป็นคนให้กำลังใจตน เป็นปกติของคนทำงานที่ต้องการกำลังใจ ถ้ามองในเรื่องอายุ ห่างแน่นอน แต่ถ้ามองในแง่ที่เด็กสมัยนี้เรียนรู้ได้ไว เขาเท่าทันเหตุการณ์สม่ำเสมอ มากกว่าตนด้วยซ้ำไป ยิ่งแก่จะยิ่งช้าในเรื่องของโลกปัจจุบัน แต่สำหรับเด็กสมัยนี้จะเร็ว เพราะฉะนั้นจะปรับจูนกัน มันจะพอดี ไม่ใช่ว่าเขาจะทันเราไหม แต่เราจะทันเขาไหม

ตอนนี้มองความรักให้เป็นปัจจุบัน ว่าจูงมือกันเดินไปและเข้าใจกันไปเรื่อย ๆ ก่อน แต่ถ้าจะยังไงก็แล้วแต่ มันเป็นไปได้หมด สำหรับอดีตหรือความทรงจำที่ดีงามก็จะเก็บไว้ ส่วนอนาคต ถ้ามองว่าเป็นอนาคตที่ดี ก็มองไว้

เรียบเรียง siamnews