พ่อแม่ร่ำไห้แทบขาดใจ เตือนแล้วลูกไม่ฟัง ออกจากบ้านกลางดึกสุดท้ายเป็นศพริมถนน

พ่อแม่ร่ำไห้แทบขาดใจ เตือนแล้วลูกไม่ฟัง ออกจากบ้านกลางดึกสุดท้ายเป็นศพริมถนน

เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 5 เมษายน 2566 พ.ต.ต.เศรษฐา สาระนันท์ สารวัตรสอบสวน สภ.บ้านหมี่ ลพบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่าได้มีพลเมืองดีพบรถจักรยานยนต์ตกข้างทาง ถนนสายบ้านหมี่-ลพบุรี ก่อนถึงแยกบ้านกล้วยประมาณ 2 กิโลเมตร ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์จาก รพ.บ้านหมี่ และมูลนิธิอริโยธรรมสถานบ้านหมี่

ที่เกิดเหตุริมถนนขาเข้า อ.บ้านหมี่ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 สีน้ำเงิน ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเสียหลักตกข้างทางชนต้นไม้อุปกรณ์รถกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ พบว่าไฟท้ายของรถยังติดอยู่ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหมวกกันน็อคสีขาวตกอยู่ ใกล้กันพบศพนายสุรศักดิ์ บานเย็นงาม อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 97/2 ม.5 ต.หนองกระเบียน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้นสีฟ้า จากการชันสูตรพลิกศพพบมีบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าผาก แขนซ้ายหัก เจ้าหน้าที่ได้นำร่างส่งพิสูจน์ ที่ รพ.

ก่อนพบศพพลเมืองดีเล่าว่าขับรถผ่านสังเกตุเห็นไฟแดงติดอยู่ จึงได้เดินลงไปดูพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์และมีผู้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งพ่อและแม่ของนายสุรศักดิ์ รุดเดินทางไปดูศพลูกที่ รพ.ร้องให้คร่ำครวญด้วยความเศร้าโศกเสียใจเล่าว่าเมื่อคืนลูกบ่นว่าโทรศัพท์หาย สงสัยว่าจะลืมที่บ้านเพื่อน พ่อและแม่บอกอย่าไปเลยค่ำมืดดึกดื่นอันตราย แต่ลูกไม่ฟังขับรถออกไปจนรุ่งสางยังไม่กลับบ้าน มาทราบอีกครั้งเป็นศพริมถนน

ทั้งนี้จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการเฉี่ยวชน คาดผู้ตายขณะขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว ประกอบกับถนนชำรุดเป็นหลุมบ่อ รถได้เสียหลักตกข้างทางชนต้นไม้จนเสียชีวิตดังกล่าว

ข่าวโดย กฤษณ์ สนใจ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดลพบุรี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ