แซ่บตัวแม่ เปิดรอยสัก ลิซ่า BLACKPINK พร้อมความหมายสุดลึกซึ้ง
ฮือฮาสนั่นไปทั้งโลกออนไลน์เลยหละค่ะ หลังจากที่ไอดอลสาวเกาหลีสัญชาติไทย อย่าง ลิซ่า ลลิษา มโนบาลหรือ ลิซ่า BLACKPINK ได้ถ่ายแบบลุกส์สุดแซ่บเกินต้าน ที่แบบว่าฮอตปรอทแตก ในนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ Harpers BAZAAR จนแฮซแท็ก BAZAARSGxLISA ติดเทรนด์ทวิตเตอร์เพียงชั่วข้ามคืน
โดยภาพแต่ละเซตก็เป็นลุกส์ที่ดูน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ สวยคลาสสิกสุดๆ แถมยังแย้มเนื้อหาในนิตยสารมาให้เล็กน้อยอีกด้วยว่า ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่เริ่มต้นเส้นทางสู่การเป็นดาราระดับนานาชาติ, ทำลายสถิติ, ยอดขาย และรางวัลในวงการนับไม่ถ้วน จนทำให้ชาวบลิ๊งค์ทั่วโลกพากันแชร์ภาพความปังของสาวลิซ่าในโลกโซเชียลกันอย่างล้นหลาม
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่แค่ความแซ่บจากลุกค์ เสื้อภาพ และการโพสต์ท่าสวยๆเท่านั้น เพราะมีอยู่ภาพหนึ่งที่ชาวบลิ๊งค์ตาดีแอบเห็นบางอย่างอยู่บริเวณหลังของเธอ ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปสีดำโผล่ออกมาให้เห็นเล็กน้อย จนหลายคนคาดเดากันว่า สิ่งนั้นมีลักษณะคล้ายรอยสักนั่นเอง จนทำให้เหล่าบลิ๊งค์ทั้งหลายพากันฮือฮายกใหญ่
โดยบางรายก็แซวสาวลิซ่า ว่า โตขึ้นแล้วแซ่บมากขึ้น หรือบางรายก็ระบุว่า ลูกสาวก้าวข้ามผ่านการกลัวเข็มแล้ว แต่อย่างไรก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่านั่นจะเป็นรอยสักจริงหรือไม่ งานนี้แฟนๆก็วอนให้สาวลิซ่าเฉลยด่วน ว่าเธอเพิ่มความแซ่บสักลายสวยๆ หรือจะเป็นเพียงแค่การเพ้นท์แทททูเท่านั้น
โดยรูปดังกล่าว แม้จะเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นั้น แต่หลายคนก็คาดว่า นั่นน่าจะเป็นรูปของ ดอกเอเดลไวส์ Leontopodium nivale หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Edelweiss มาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่า สูงศักด์ edel และ ขาว weiss เป็นดอกไม้ภูเขาพบในเขตหนาวหรือเขตอบอุ่นในประเทศโซนยุโรป
ชื่อเล่นที่ได้รับความนิยมที่สุดคือของดอกไม้ชนิดนี้ก็คือ ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์ เนื่องจากมักจะขึ้นตามหน้าผา มีสีขาว และมีขนปกคลุมทั้งดอกและใบ เพื่อป้องกันการระเหยน้ำ ซึ่งทำให้อยู่รอดในสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นจัดบนภูเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,800-3,000 เมตร นอกจากนี้ยังมีอีกชื่อคือ ดอกไม้เมฆ ด้วยมีความงามราวกับฝัน
ความหมายของดอกไม้นี้คือ รักแท้ เพราะเชื่อกันว่าชายใดหากมอบดอกไม้นี้แก่หญิงสาว นั่นหมายถึง เขามีความมั่นคง มีความพยายาม เนื่องจากดอกไม้นี้จะบานเพียงปีละ 3 ครั้ง อีกทั้งว่ากันว่าหากเด็ดดอกเอเดลไวส์ มาแล้วรูปร่างของดอกจะไม่เปลี่ยนแปลง หรือเหี่ยวเฉาอีกด้วย
โดยก่อนหน้าหน้านี้สาวลิซ่า ยังได้จับมือกับแบรนด์จิวเวลรีเก่าแก่สัญชาติอิตาเลียนอย่าง Bulgari สร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่เธอนั้นได้ออกแบบด้วยตัวเอง โดยมีเพียง 300 เรือนทั่วโลก และพิเศษไปกว่านั้นเธอยังเลือกสลักบริเวณหลังฝานาฬิกาด้วยดอกเอเดลไวส์ Edelweiss พร้อมเผยว่าเป็นดอกไม้พันธุ์โปรดของเธอนั่นเอง
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยหละค่ะ หากรอยสักของเธอจะเป็นดอกไม้ชนิดนี้ แต่อย่างไรก็ยังต้องรอติดตามกันต่อไปว่าเธอสัก เอเดลไวส์ จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่แทททูเท่านั้นค่ะ
เรียบเรียง siamnews