อ่ำ อัมรินทร์ ไหว้ขอชีวิต จากสูงสุดจนไม่เหลืออะไร ได้ อั้มและนัท คอยช่วยเหลือ

อ่ำ อัมรินทร์ ไหว้ขอชีวิต จากสูงสุดจนไม่เหลืออะไร ได้ อั้มและนัท คอยช่วยเหลือ

ต้องว่าเป็นศิลปินดาราอีกหนึ่งท่านนะครับ ที่เจอมรสุมชีวิตแทบจะทุกรูปแบบ สำหรับ อ่ำ อัมริมนทร์ นิติพน ที่ล่าสุด ได้ออกมาเปิดใจในรายการแฉ ย้อนเล่าชีวิตในวันที่โด่งดัง เป็นทั้งพระเอก นักร้อง ประสบความสำเร็จไปหมด

วันที่ล้มก็มาแบบไม่รู้ตัว ทั้งเป็นหนี้ธนาคาร ครอบครัวหย่าร้าง สิ่งที่ทำกับร่างกายไว้ นอนน้อย ดื่มจัด ทำให้สุขภาพย่ำแย่ เคยถึงขั้นพยายามคิดสั้น ซึ่งนักแสดงคนดังออกปากเองเลยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวร

ภาพจากรายการ แฉ

เริ่มจากร่างกายเริ่มทำงานไม่ได้ มีอาการป่วยสะสมหลายอย่าง จะใส่กางเกงยังไม่ได้ เป็นนักกีฬากอล์ฟด้วยใช้ร่างกายเยอะ ต้องรักษาตัวต้องกินอยู่ ต้องปล่อยจนหมดไม่เหลืออะไร สุดท้ายไปบวชเพราะเก็บอะไรไว้ไม่ได้แล้ว

ภาพจากรายการ แฉ

โดยทาง อ่ำ อัมรินทร์ ยอมรับว่า ตอนไม่มีเงินหลักสิบก็ไม่มี หาไม่ได้เลย ไม่ได้ขี้เกียจ แต่ร่างกายมันหาไม่ได้ ถึงขนาดตื่นมามือยังบวม พันมือไว้ไม่ให้ใครเห็น ตื่นขึ้นมาพนมมือบอก พอแล้วได้มั้ย ปล่อยผมไปเถอะ ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรสำคัญคือตัวเราเองทำตัวเอง บ้านก็ไม่เหลือ รถก็ไม่เหลือทยอยออกไป จากคนไม่เข้าวัด สวดมนต์ยังไม่สวด จนมีเพื่อนมาชวนเข้าวัด

ทางด้าน พระเอกหนุ่ม อั้ม อธิชาติ ได้กล่าวถึงเรื่องอ่ำ อัมรินทร์ ครับว่า ได้รู้เรื่องพี่อ่ำ มีปัญหา เพราะภรรยา นัท มีเรีย พาพี่อ่ำไปฟังธรรม เลยได้เจอพี่อ่ำ จากคนสูงสุดมาก ๆ วันที่เขาล้มลง ได้ให้เหรียญพระเจ้าตากไป

ภาพจากรายการ แฉ

ซึ่ง อ่ำ อัมรินทร์ ได้เล่าต่อว่า อั้มพาไปวัดบางเดื่อ อยุธยา พาไปนั่งสมาธิ ป่วยอยู่ 2-3 ปี ไปจันทบุรี ยังกระด๊อกกระแด๊กไป เข้าไปที่พลับพลาไหว้ขอพระเจ้าตาก ขอให้ผมเปรียบเหมือนทหารที่เคยร่วมรบมา หัวใจต้องเด็ดเดี่ยวมาก

เราต้องฝ่าฟันไปให้ได้ กลับมาเราต้องปฏิบัติด้วย ตอนนั้นเป็นเจ้าของรายการ 5-6 รายการ วันหนึ่งไม่เหลืออะไรเลย บ้าน รถ หลังบวชปี 60 ถือศีล 5 วางแผนที่จะกลับมา ก็เริ่มมีงาน อยู่ดีๆกลับมาหาย คนละร่างกันเลย

ภาพจากรายการ แฉ

นอกจากนี้ อ่ำ อัมรินทร์ ยังได้เผยเรื่องที่ตัวเองก็ไม่เชื่อ โดยแม่บอกว่า มีผู้หญิงเข้าฝันให้ไปที่สุสานวีรชนคนกล้า เมืองกาญจน์ ก็ไม่เชื่ออยากไปลอง ตอนแรกไปสุสานชาวยุโรปซึ่งไม่ใช่ คนขายพวงมาลัยบอกให้ไปอีกที่หนึ่ง ไปถึงโพล้เพล้ เป็นเนินขึ้นไป จนไปเห็นป้ายอุทยานเก้าทัพ ก็ร้องไห้ รู้ตัวแต่หยุดไม่ได้

ขับไปมืด ๆ เหมือนอะไรมาช่วย ให้เราพุ่งขึ้นเนินไปอีกไปที่จอดรถหนึ่ง เป็นศาล ไฟหน้าส่องไปเป็นป้าย กรมพระราชวังบวรสุรสีหนาทบุญมา พระอนุชาในรัชกาลที่ 1 เคยร่วมรบกับพระเจ้าตาก ก็ร้องไห้ หนักไปอีก

ขอบคุณข้อมูลจาก รายการ แฉ GMM TV

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ