ปันปัน เต็มฟ้า เปิดใจ ถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิต หลังสูญเสียพ่อแม่
สวยและมากความสามารถ ปันปัน เต็มฟ้า ลูกสาวเก่งของนักร้องผู้ล่วงลับ แหวน ฐิติมา ที่ล่าสุดขอเปิดใจหลังสูญเสียคุณพ่อ ปุ๊ กรุงเกษม เมื่อปีที่ผ่านมา ผ่านทางรายการคุยแซ่บ show รวมทั้งได้เผยถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิต ที่ทำให้ตัดสินใจลาออกจากวงการบันเทิง
เต็มฟ้า กฤษณายุธ หรือ ปันปัน นักร้อง นักแสดง นางแบบและอดีตนักกีฬายิมนาสติกลีลาทีมชาติไทย ลูกสาวคนเก่งของ แหวน ฐิติมา ร็อกเกอร์และนักร้องหญิงระดับดีว่า ที่มีเสียงอันทรงพลัง และปุ๊ กรุงเกษม หรือ บรรเจิด กฤษณายุธ นักธุรกิจ สจ๊วต และนักเขียนที่หลายคนรู้จักกันดี ล่าสุด ปันปัน ได้ออกมาเปิดใจ ผ่านรายการ Club Friday Show อัปเดตชีวิต พร้อมเปิดใจหลังสูญเสียคุณพ่อ รวมทั้งได้เผยถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิต ที่ทำให้ตัดสินใจลาออกจากวงการบันเทิง โดยเธอนั้นได้เล่าว่า
ตอนที่เสียคุณแม่จะหนักมาก ตอนที่เสียคุณพ่อเหมือนเรามีการทำใจไว้แล้ว เหมือนเราเจอเหตุการณ์มาหนึ่งรอบแล้ว พอเป็นคุณพ่อมันจะรู้สึกใจหายมากกว่าว่าอาทิตย์ที่แล้วยังคุยกันอยู่เลย อยู่ดีๆ วันหนึ่งเขาหายไปเลย แต่ว่าในเรื่องของการใช้ชีวิตหรือดูแลตัวเอง เราค่อนข้างเช็ตมาแล้ว ตอนคุณแม่มันค่อนข้างฉุกละหุก แล้วเรายังเด็กมาก แต่รอบนี้รู้สึกว่าชีวิตคนเรามันสั้น ทำให้เรากลับมาคิดได้ว่ามีความสุขกับปัจจุบันดีที่สุด เราโชคดีที่มีทั้งเพื่อนที่ทำงาน คนรอบตัวเรา คนที่แกรมมี่ หรือว่าผู้ใหญ่ทุกคน เขาให้กำลังใจเราดีมาก
ตอนคุณแม่เสีย เรารู้สึกไปไม่ถูกเลย เหมือนตอนนั้นเราพึ่งคุณแม่เยอะ คุณแม่ทำให้ทุกอย่าง เรายังเด็กมากด้วย อายุประมาณ 22 ปี เพิ่งจบมหาวิทยาลัย ยังไม่ค่อยได้ทำอะไรเองสักเท่าไหร่ เพิ่งเรียนจบ โอเคในการที่มาทำงานประจำ มาหาเส้นทางของตัวเอง ถือว่ายากมาก ทั้งคุณแม่ไม่อยู่ ในเรื่องความสามารถที่เราไม่มี ตอนนั้นเรามาสายไฟแนนซ์ ประสบการณ์น้อยมาก สู้ตรงนั้นมันค่อนข้างยาก แต่เมื่อมันเริ่มเข้าที่แล้ว พอตอนคุณพ่อเราอาจจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ก็เลยง่ายขึ้น
ก่อนคุณพ่อจากไป คุณพ่ออยากให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุข คุณพ่อเป็นคนที่สบายๆ ชอบมีความสุข แฮปปี้ รักลูก เพราะฉะนั้นอยากให้ลูกทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองมีความสุขที่สุด คุณพ่อไม่มีมีโกลมาบังคับเราเยอะแยะว่าเราต้องประสบความสำเร็จที่สุดนู่นนี่นั่น แค่อยากให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะคุณพ่อช่วงหลังๆ ก็จะเห็นปันเริ่มทำงานมา แล้วงานเริ่มอยู่ตัว เขาก็เลยไม่ได้เป็นห่วงมาก
ช่วงแรกๆ มันแน่นอนอยู่แล้วที่เราจะร้องไห้บ้าง แต่ว่าหนูจะเป็นแนวพัฒนาตัวเองมากขึ้น รักตัวเอง พอเราทำแบบนี้เราจะรู้สึกว่าคุณแม่น่าจะภูมิใจนะ มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ตอนแรกที่คุณแม่จากไป มันเหมือนกับเราได้เจอเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมากๆ กระทบจิตใจ เราเลยเป็นเศร้าเรื้อรัง ไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็เปลี่ยนแนวคิดใหม่ ช่วงนั้นมันยาก เพราะคุณแม่หายไปด้วย งานในวงการเราก็ไปไม่เป็นเลย ใครจะดูคิวให้ เราเลยโอเค ไม่เป็นไร งั้นเราพักงานในวงการไปก่อนแล้วกัน
เพราะว่าตอนที่ปันประสบความสำเร็จในวงการ เหมือนคุณแม่ซัพพอร์ตตลอด ปันแทบเป็นเด็กที่ไม่ต้องทำอะไรเลย คุณแม่ดูแลตลอด พอจุดนี้หาไป เราก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน เราไม่รู้ว่าจะไปรับงานอะไร ยิ่งมาตึกก็ยิ่งคิดถึง มันเหมือนทำใจไม่ได้ นี่ก็นับเป็นเหตุผลที่เราลาออกจากวงการบันเทิงด้วย แล้วเราเรียนจบเศรษฐศาสตร์มา เราก็ตัดสินใจมุ่งไปสายนั้นเลย
ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม panpantemfah
เรียบเรียงโดย ทีมงาน สยามนิวส์