โย่ง เชิญยิ้ม กลายเป็นด็อกเตอร์ สุดภูมิใจ คว้าปริญญาเอกได้ในที่สุด
ขึ้นแท่นด็อกเตอร์ป้ายแดงแล้ว สำหรับศิลปินตลกอาวุโส โย่ง เชิญยิ้ม ที่ล่าสุดได้รับปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย จากมหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม ท่ามกลางความยินดีของครอบครัว และเพื่อนพ้องดาราตลกที่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างอบอุ่นทีเดียว โดย น้าโย่ง ได้เปิดใจในงานเลี้ยงฉลองหลังได้รับปริญญาเอก ที่ร้านมีไม้คาเฟ่ ลำลูกกาคลอง 2 เผยว่า
ดีใจ สิ่งที่เราไม่ได้หวัง ไม่ได้คาดคิดไว้ พอได้รับพระราชทานปริญญาครั้งนี้ ก็ดีใจมาก เป็นปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย ถามว่าเกณฑ์การพิจารณาจากอะไร ก็สืบสานอนุรักษ์ภาษาไทย สืบสานศิลปะพื้นบ้าน จากเพลงฉ่อย ลิเก เพลงแหล่ เพลงอีแซว ลำตัด เพลงเรือ ที่อยากถ่ายทอดออกไป อยากให้เด็กๆ รุ่นหลังได้รู้ ได้ซึมซับบ้าง ไม่อยากให้ของเก่าๆ มันหมดไป
พร้อมล่าวว่าเขิน ที่มีคนเรียกว่าดอกเตอร์ เพราะปกติมีแต่คนเรียกว่าน้าโย่ง ตอนนี้บางคนเขาก็แซว ดร.โย่งๆ ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ ก็ภูมิใจว่าสิ่งที่เราทำผ่านมา มันมีคุณค่า มันมีประโยชน์ในเรื่องของการอนุรักษ์ภาษาไทย อย่างที่ท่านผู้ใหญ่ให้โอกาสได้มอบรางวัลนี้ให้ ภูมิใจมากในสิ่งที่เราทำผ่านมา แล้วเราก็จะทำต่อไป มันเป็นสิ่งที่เรารักที่จะทำอยู่แล้วด้วย พร้อมกับฝากถึงเด็กๆรุ่นใหม่ว่า ภาษาไทยกับศิลปะพื้นบ้าน เป็นของคู่กันอยู่แล้ว
เราเป็นเจ้าของภาษา เราก็ต้องใช้ภาษาให้สวย เขียนให้สวย ไม่ว่าจะเรื่องการพูดการเขียน แล้วก็ในด้านศิลปะ ก็กลัวจะหมดไปด้วย ก็ต้องฝากเด็กรุ่นหลังให้ซึมซับ พอฝึก พอหัด พอร้อง พอเล่นเป็นแล้ว มันไม่มีงานอะ จะฝึกมาทำไม ก็เลยอยากจะขอให้ผู้ใหญ่ที่มีอำนาจที่จะสนับสนุนในด้านนี้ได้ ขอให้มาช่วยสนับสนุนเพลงพื้นบ้านหน่อย เพราะเขาก็อนุรักษ์ภาษาไทยด้วยอยู่แล้ว ถ้าหากว่าคนมาเขาอนุรักษ์ เขาอด เขาไม่มีกิน มันก็ไม่มีแรงร้อง ไม่มีแรงเล่น ไม่มีแรงสืบสาน อยากให้งานอำเภอ งานจังหวัด งานวัดที่เขาจัดกัน มีเพลงพื้นบ้านสักหน่อยหนึ่ง เขาจะได้มีกำลังใจ
นอกจากอยากอนุรักษ์แล้ว ยังอยากให้มีพื้นที่โชว์บนเวทีต่างๆ ด้วย เพลงพื้นบ้านจะได้แพร่ขยาย สืบสานต่อไป ไม่อยากให้หมด ศิลปะยาว ชีวิตสั้นเนาะ อายุสั้นกว่าศิลปะ ถ้าหากว่าไม่มีใครสืบสานสนับสนุน ศิลปินรุ่นเก่าๆ ครูบาอาจารย์ก็จะโรยราจากไป ศิลปินก็คงไม่ต่างกับอายุ คงจากไปด้วยถ้าหากไม่สนับสนุ และยังเคยมีไปเป็นวิทยากรตามมหาวิทยาลัย ไปโรงเรียน ซึ่งก็มีเด็กสนใจเยอะ ที่อยากจะร้องเพลงพื้นบ้าน มันเป็นภาษาที่สวย จะสมัยเก่าสมัยใหม่ เป็นภาษาไทยมันสวยหมด เราได้เห็นแล้วก็ชื่นใจ
ตอนนั้นไปเจอเด็กแว้นมอเตอร์ไซค์ล้ม ข้อศอกถลอกปอกเปิก พอเราขับรถผ่านไป เราเปิดกระจกมองไป เขาด้นสดใส่เลย เราก็เฮ้ย เพลงฉ่อย เพลงพื้นบ้านมันมีชีวิตชีวานะ ซึ่งหลังจากที่ฟังสัมภาษณ์ของน้าโย่งจบ ก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าภูมิใจในความเป็นไทยมากแค่ไหน อย่างไรก็ยินดีกัยดอกเตอร์คนใหม่ด้วยเช่นกันค่ะ
เรียบเรียง siamnews