หนุ่มวัย 23 น้อยใจนั่งกอดเข่ากลางถนน พ่อปวดหัวลูกชายเทวดาเอาแต่ใจจะมารับเสาร์นี้แล้ว

หนุ่มวัย 23 น้อยใจนั่งกอดเข่ากลางถนน พ่อปวดหัวลูกชายเทวดาเอาแต่ใจจะมารับเสาร์นี้แล้ว

วันนี้ (9 ธ.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีนายนที หงส์ชุมแพ อายุ 23 ปี หรือ โอ๊ต หนุ่มบ้านหนองเตยโนนสวรรค์ ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จงอุดรานี เกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจตาและยาย ที่ทวงเอาคืน 200 บาทที่ให้ในงานวันเกิดคืน มิหนำซ้ำพ่อรับปากจะมารับไปทำงานด้วยที่กรุงเทพฯ รอมาตั้งแต่ป.6 จนถึงตอนนี้อายุ 23 ปีไม่มารับ จึงเกิดคิดน้อยใจชีวิตตัวเองหวังจบชีวิตให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยกลางถนน พลเมืองแจ้งช่วยเหลือ ต่อมา นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอ้ดมินเพจบ้านดุงอัพเดตและตร.สภ.บ้านดุง ได้มาเกลี้ยกล่อมและอาสาไปส่งที่บ้านได้อย่างหวุดหวิด

ต่อมาวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของหนุ่มโอ๊ตรายนี้ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน พบกับคุณยายกองศรี หงส์ชุมแพ อายุ 67 ปียายของน้องโอ๊ต เปิดเผยว่า หลานคนนี้ตอนเด็กๆ ดีมาก แต่พอมาเข้าป.4 ที่โรงเรียนใกล้บ้านเกิดมีอาการชัก หลานเป็นคนขี้น้อยใจ หากเกิดอาการน้อยใจตาและยายก็จะหนีออกจากบ้านเป็นประจำ ปกติแกไม่ได้ทำงาน อยากจะไปทำงานช่างล้อแม็กกับพ่อ ที่ว่าไม่ได้เจอพ่อมา 11 ปีไม่ใช่เลย ช่วงดำนาปีนี้พ่อก็มา พ่อมาทุกปีอยู่แล้ว ลูกชายกลับมาบ้านบ่อยมากจนไม่มีเงินค่ารถ ยอมรับหลานชายมีอาการทางประสาทด้วย วันดีคืนดีก็เดินไปที่โรงพักไปให้ตร.จับไปเฉยๆ เลย ส่วนที่ไปนั่งกลางถนนเพราะโกรธให้ตาและยายดึงเงินคืน 200 บาท เหลือใจหลายหลานมาทำแบบนี้ อย่างเมื่อวานพอตร.รับมาส่งที่บ้าน ก็หนีไปอีกไม่กลับมาบ้านเพิ่งกลับบ้านมาตี 4 วันนี้ ยังมาทักยายว่า ยายทำไมตื่นเช้าจัง ยายก็ตอบไปถึงเวลาก็ลุกนึ่งข้าวใส่บาตร เป็นแบบนี้ปวดหัวมาก จากนี้ไปก็จะให้พ่อเขาเอาไปดูเลย แต่ก็สงสารลูกชายทำงานที่กรุงเทพฯ เขามีภาระหาเงินเลี้ยงชีพ ต้องเอาลูกชายเอาแต่ใจไปอยู่ด้วย สงสารทั้งลูกและหลานชายคนนี้อย่างมาก และอีกอย่างลูกชายที่อยุ่กรุงเทพฯ กลัวหลานชายทำไม่ดี เพราะเคยถือไม้ใส่ตาและยายหลายครั้งแล้ว หลานชายคนนี้รักพ่อเขามากเพราะแม่หนีไปตั้งแต่เด็ก บางทีก็เหมือนเขามีปมด้อยยายกองศรีกล่าวตอนท้ายอย่างละเหี่ยใจ

ขณะที่นายโอ๊ต บอกว่า ที่ผมไปนั่งกลางถนน เพราะผมเครียด ผมรักพ่อผมมาก ตาไปพูดให้พ่อผมด้วยทำให้ไม่พอใจ พอพ่อรู้ข่าวพ่อจะส่งขึ้นรถตู้ให้ไปหาในวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค.คือวันพรุ่งนี้เลย ผมไปกรุงเทพฯก็จะไปทำงานกลึงแม็กซ์ช่วยพ่อที่ร้าน แต่ผมมีอาการหอบหืดและลมชัก แต่ก็พอช่วยพ่อทำงานได้อยู่ วันที่ 7 ธ.ค.วันเกิดพ่อส่งเงินมาให้ 300 บาท แต่ตาและยายขอเงินไปซ่อมรถซาเล้งก็เลยทำให้ผมโกรธจึงไปนั่งกลางถนนดังกล่าว แต่ตอนนี้สบายใจขึ้นแล้วและดีใจที่พ่อจะมารับพรุ่งนี้เลย ผมจะประคองสติไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ กับตัวเองอีก

ขณะที่นายวันชัย หงส์ชุมแพ อายุ 48 ปี หรือ ช่างแขก ทำงานที่กรุงเทพฯ พ่อของนายโอ๊ต เปิดเผยว่า เรื่องของราวของลูกชายคนนี้ ตนเองมีลูกชายคนเดียว แต่ชอบเล่นเกมโทรศัพท์ ก่อนที่ลูกชายจะไปนั่งกลางถนนเมื่อวานนี้ วันเกิดของเขา เขาก็ขอตังค์ตาและยาย ตนเองก็โอนไปให้ แต่ตาและยายดันไปขอเงินไปซ่อมรถ ทำให้น้อยใจ ยอมรับลูกชายเป็นคนเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องปุ๊บปั๊บตอนนั้นเลย ตอนที่ลูกชายนั่งกลางถนนก็ได้โทรไปหาลูกชายอยู่ ถามว่าโอ๊ตเป็นอะไร กลับบ้านเลย แต่ลูกชายก็บอกว่า ไม่กลับจะจบชีวิตหลังวันเกิดนี่หละ ผมก็เลยบอกว่าทำไมพูดอย่างนั้นจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวก็แล้วแต่โตแล้ว ลูกชายก็บอกว่าแล้วแต่จะทำให้ดู จากนั้นก็ตัดสายไปเลยจนรู้เป็นข่าว ที่ผ่านมาเคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งเหตุเพราะอารมณ์น้อยใจ

ส่วนที่เขาบอกว่าพ่อไม่มารับไปอยู่ด้วยนาน 11 ปีนั้นตนเองกลับบ้านบ่อยก็เห็นหน้าประจำ เคยพาลูกชายมาอยู่และทำงานด้วย แต่เขามีอาการลมชัก ต้องเข้ารพ.ไม่ได้ทำงาน ตนก็ไม่ได้ทำงานและต้องมีค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลอีก จึงเอาไปอยู่กับตาและยาย ผมจะลองดูสักตั้ง ลูกชายอยากมาทำงานและมาหาพ่อ ผมก็จะให้ลูกชายขึ้นรถตู้มาหาในวันเสาร์นี้เลย ลองให้มาทำงานดูอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร

ความคิดของลูกชายคนนี้อายุมากแล้วแต่ความคิดเป็นเด็ก หมกมุ่นกับโทรศัพท์ ไม่เสพ แต่มีอาการป่วยลมชักต้องกินยาประจำ บางทีลูกชายน้อยใจโทรมาหาผมบอกว่า ตาและยายรักหลานคนอื่นมากกว่าตนเอง ตนเองก็ปวดหัว แต่ก็รักลูกเหมือนเดิมแม้ลูกจะเป็นอย่างไร ดั่งสุภาษิต เพิ่นว่าผักชีเราก็ว่าผักบั่ว เพิ่นว่าตะกั่วเฮากะว่าทองคำ วันเสาร์พรุ่งนี้จะรับลูกชายมาทำงานและอยู่ด้วยสักตั้งหนึ่งลองดู ผมเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเพราะแม่เขาหนีไปตั้งแต่ 7 เดือนกะว่าลูกชายโตขึ้นจะได้กินแรง เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ชักกันใหญ่มาจนถึงตอนนี้ว่าจะได้กินเรี่ยวกินแรงแต่มาแรงกว่าบ้าอีก นายแขกกล่าวตอนท้าย

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อ่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ