ชาวบ้านเร่งลงแขกเกี่ยวข้าว หลังฝนหลงฤดูตกติดต่อกัน เตือน ปชช.เฝ้าระวังทั้งฝนทั้งหนาว ระหว่าง 30 พ.ย.-4 ธ.ค.นี้
ชาวบ้านสาละวะ หมู่ที่ 4 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เร่งเกี่ยวข้าวด้วยวิธีการลงแขก ในนาข้าวและไร่ข้าว ที่มีรวมกันกว่า 50 ผืน เพื่อลดความเสียหาย หลังจากที่มีฝนหลงฤดูที่เกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ตกติดต่อกันมานานกว่า 2 สัปดาห์ จนส่งผลให้ข้าวไร่ที่เกี่ยวเกี่ยวช่วงต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาได้รับความเสียหาย เนื่องจากชาวบ้านไม่มีอุปกรณ์ในการป้องกันฝน
เช่นเดียวกับนาของนายเหม่ละ ไม่มีนามสกุล ชาวบ้าน บ้านสาละวะที่กำลังเก็บข้าวในวันนี้ โดยมีญาติๆและเพื่อบ้าน ชาย หญิงกว่า 30 คน มาช่วยลงแขกเกี่ยวข้าว เนื่องจากการทำนาและการทำไร่ ของชาวบ้านที่นี่ยังคงเป็นวิถีดั้งเดิมที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ทางการเกษตรและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวฝนที่ทิ้งช่วงในช่วงเริ่มการเพาะปลูก (พ.ค.-มิถุนายน) ประกอบกับศัตรูข้าวในธรรมชาติ ทั้งแมลง หนู รวมทั้งหมูป่า ส่งผลให้ผลิตที่ได้ปีนี้น้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา ที่สำคัญเมื่อถึงช่วงการเก็บเกี่ยว(พ.ย-ธ.ค) กลับมาประสบปัญหาฝนตก ทำให้ข้าวได้รับความเสียหาย หลายครอบครัวคาดว่าผลผลิตข้าวปีนี้ไม่น่าเพียงพอสำหรับบริโภค จึงจำเป็นต้องหยิบยืมจากเพื่อนบ้านในหมู่บ้านหรือจากหมู่บ้านใกล้เคียง ก่อนจะคืนให้ในปีหน้า เสียงนายเหม่ละ
ทั้งนี้ชาวบ้านสาละวะส่วนใหญ่ปลูกข้าวสำหรับไว้บริโภคในครัวเรือน ไม่ได้ปลูกไว้ขาย ที่สำคัญชาวบ้านที่นี่สามารถปลูกข้าวได้เพียงปีละ1 ครั้ง(นาปี) เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีระบบชลประทาน ต้องอาศัยน้ำจากฝนที่ตกลงมาในการเพาะปลูกข้าว
ขณะที่วันนี้ 30 พ.ย.65 ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง แจ้งว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (333/2564) ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม 2565 ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองในช่วงแรกและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเชียส บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ และภาคกลาง อุณหภูมิจะลดลง 1-4 องศาเซลเชียส กับมีลมแรง
ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน -4 ธันวาคม 2565 เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ จึงให้ กอปภ.อ. กอปภ.อปท. และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง จัดเก็บสิ่งของและหาสิ่งปกคลุมผลผลิตทางการเกษตร
รวมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ ข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนรักษาสุขภาพทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ และระวังอันตรายจากอัคคีภัยในการก่อไฟให้ความอบอุ่น ติดตามและประเมินสถานการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ หรือปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หากมีแนวโน้มการเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้แจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีทราบทันทีทางแอปพลิเคชันไลน์ รายงานสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี และทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ dpr_kan@hotmail.co.th และสำหรับอำเภอ ขอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ (เทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล) ทราบและดำเนินการด้วย
ข่าวโดย ปรีชา ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดกาญจนบุรี