หนุ่มซื้อรถหรูป้ายแดงเกือบ 3 ล้าน ผ่านไป2เดือนแทบทรุด

หนุ่มซื้อรถหรูป้ายแดงเกือบ 3 ล้าน ผ่านไป2เดือนแทบทรุด

วันที่ 23 พ.ย.65 ที่ศูนย์ดำรงธรรมชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายปัญญา บัวบุปผา อายุ 41 ปี ทันตแพทย์ รพ.แห่งหนึ่ง ใน จ.กาฬสินธุ์ ได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ นายกิตติพงษ์ เบี้ยวโกฏิ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น เพื่อให้บริษัทค่ายรถชื่อดังรายใหญ่ของประเทศไทย หรือผู้แทนจำหน่ายออกมาแสดงความรับผิดชอบ หลังซื้อรถในราคา 2.99 ล้านบาท แต่กลับได้รถที่ไม่ตรงปก รถขัดข้องและชำรุดมาอย่างต่อเนื่อง จนเกือบเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่มาแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

นายปัญญา กล่าวว่า ได้ตัดสินใจซื้อรถดังกล่าว โดยศึกษารายละเอียดและข้อมูลของรถค่ายยุโรปรุ่นนี้มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยยี่ห้อที่เป็นที่น่าเชื่อถือ และรถมีระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เผยแพร่ในหลายประเทศทั่วโลก จึงตัดสินใจซื้อในราคา 2.99 ล้านบาท จากโชว์รูมที่ กทม. ซึ่งยอมรับว่ามีการศึกษารถคันนี้มากับ 3 บริษัท แยกเป็นขอนแก่น 1 บริษัท และ กรุงเทพฯ 2 บริษัท แต่บริษัทฯของค่ายรถคันนี้ได้ให้ข้อเสนอสูงสุด จึงตัดสินใจวางเงินจองและทำสัญญาซื้อ โดยจองรถเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา นัดรับส่งมอบรถกันในเดือน ก.ค. แต่ทางบริษัทฯขอเลื่อนไปในเดือน ต.ค. โดยระบุว่ารถไม่ผ่านการตรวจสอบ จนกระทั่งเดือน ส.ค.บริษัทฯโทรมาว่าจะส่งมอบรถ จึงตัดสินใจรับรถและนัดรับมอบรถกันที่ขอนแก่น โดยรับรถสีดำ ป้ายแดง กันในวันที่ 8 ก.ย.

แต่แล้วเหตุการณ์ครั้งแรกก็เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย. คือระบบเปิด-ปิด รถใช้งานไม่ได้ และสายต่อระบบชาร์จไฟของรถถอดไม่ได้ จึงแจ้งไปที่บริษัทฯแม่ ซึ่งทางบริษัทฯก็มายกรถไปซ่อมที่ศูนย์ซ่อมขอนแก่น โดยระบุว่าเกิดจากระบบแบตเตอรี่แคม และเข้าซ่อมตามปกติ โดยนัดรับรถกลับคืนในวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งก็เดินทางมารับรถที่ขอนแก่น และขับกลับไปทำงานที่ รพ.ที่ จ.กาฬสินธุ์ทันที เมื่อขับออกจากขอนแก่น ได้ประมาณ 70 กม. จู่ๆ ระบบแจ้งเตือนรถก็แสดงขึ้น เครื่องยนต์ก็ผ่อนแรง แอร์ดับ

ตนเห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจขับรถเข้าช่องทางด้านซ้าย โดยในจังหวะที่จะถึงช่องทางซ้ายสุด รถก็หยุดอย่างกระทันหัน ท่ามกลางความตกใจของตนและครอบครัวอย่างมาก เพราะหากรถหยุดอยู่กลางถนนขณะขับ คงเกิดอุบัติเหตุเป็นแน่ ซึ่งเมื่อรถหยุดก็ได้แจ้งทางบริษัทฯตามใบรับประกัน ศูนย์ฯก็มายกรถกลับมาซ่อมที่ขอนแก่นอีกครั้ง ซึ่งและครอบครัวกลัวมากเพราะไม่มั่นใจในระบบรถและความปลอดภัยของรถคันนี้แล้ว และก็คิดว่าหากส่งรถซ่อมอีกแล้วกลับมาใช้อีกคงเกิดอันตรายแน่ จึงประสานไปยังบริษัทฯ เพื่อขอคืนรถ เปลี่ยนรถ หรือขอเงินคืน

เรียบเรียงโดย siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ