จากกรณี สายไหม ต้องรอด ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า #เตือนภัย #ร้านแอร์โกงลูกค้าตัวอย่างบิลร้านแอร์ชื่อดังย่านรามคำแหง ที่ถูกช่างแอร์ในร้านออกมาแฉว่า #ร้านเขียนบิลโกงลูกค้ามายาวนาน เช่นบิลนี้ ช่างไปล้างแอร์ให้ลูกค้าแค่ 3 ตัว ค่าล้าง 1,900 บาท

แต่ทางร้านให้ช่างแจ้งลูกค้าว่าน้ำยาแอร์ขาดต้องเติมน้ำยา และ ตัวเซนเซอร์เสียต้องเปลี่ยน คิดค่าใช้จ่ายรวม 13,575 บาท #โดยช่างยืนยันว่า ไม่มีการเติมน้ำยา ไม่มีการเปลี่ยนอุปกรณ์ใดๆทั้งสิ้น เท่ากับเคสนี้ลูกค้าถูกโกงเงินไป 11,675 บาท #ฝาก พี่ๆตำรวจ ตำรวจสอบสวนกลาง ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค และ สน.หัวหมาก ตรวจสอบด้วยนะคะ

จากนั้นเมื่อไปทำงานจริง เช่นล้างแอร์ให้ลูกค้าที่คอนโดแห่งหนึ่ง ได้แจ้งลูกค้าว่าน้ำยาแอร์ขาดต้องเติม และมีอะไหล่บางตัวเสียหาย ทั้งที่ความเป็นจริงน้ำยาแอร์ไม่ได้หมด และไม่มีอะไหล่เสียหาย แต่ก็ต้องโกงลูกค้าไปตามที่เจ้าของร้านบอก ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งจะอยู่ในหลักพันทุกครั้ง ทั้งที่ความจริงอยู่เพียงแต่หลักร้อยบาทเท่านั้น

เคสสุดท้ายที่ไปล้างแอร์ บ้านหลังดังกล่าวเพิ่งจะล้างแอร์ไป เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่ร้านให้โกงค่าล้างแอร์ไปกว่า 3 พันบาท ตนไม่อยากทำจึงคิดเงินแค่ 500 บาทตามราคาปกติ แต่เจ้าของร้านไม่พอใจและต่อว่าใส่ ตนจึงตัดสินใจลาออกทั้งที่ทำงานได้แค่ 5 วัน ก่อนจะนำเรื่องนี้ไปโพสต์เตือนภัยในกลุ่มช่างแอร์ และถูกทางร้านฟ้องกลับในข้อหาหมิ่นประมาท ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงนำเรื่องราวนี้มาร้องเรียน

ล่าสุดชายวัย 68 ปี เจ้าของร้านซ่อมแอร์ย่านรามคำแหง 24 ปฏิเสธว่าไม่ได้ให้อดีตลูกจ้างไปโกงลูกค้า ส่วนการทำงานนั้นถ้าล้างแอร์ทั่วไป ลูกจ้างจะได้แค่ค่าแรงตามปกติ แต่หากมีการเปลี่ยนอะไหล่ หรือมีการซ่อมแซม ลูกจ้างจะได้คอมมิชชั่นร้อยละ 10 มองว่าที่อีกฝ่ายออกมาพูดแบบนั้นอาจจะเกิดจากความโกรธเคืองต่อร้าน ยืนยันว่าเมื่อร้านรับงานจะส่งลูกจ้างออกไป ซึ่งร้านจะไม่รู้เลยว่าหน้างานเป็นยังไง หากมีการซ่อมแอร์เพิ่ม ก็จะโทร. มาขอเบิกอะไหล่เท่านั้น ส่วนราคาลูกค้าและลูกจ้างจะเป็นคนตกลงตามหน้างาน ซึ่งร้านก็ขายอะไหล่ในราคาตามทั่วไป

เจ้าของร้านยืนยันว่า ตนเป็นช่างแอร์มาตั้งแต่อายุ 12 ปี และเปิดร้านมาหลาย 10 ปี เจอมาทั้งลูกจ้างที่มีนิสัยไปขโมยทรัพย์สินของลูกค้า เจอลูกจ้างมาหลายรูปแบบ ซึ่งเมื่อพบว่าทำผิดก็ไล่ออกทั้งหมด เพราะไม่อยากเอาชื่อเสียงของร้านไปเสี่ยง อีกทั้งตั้งแต่เปิดร้านมา ยังไม่เคยมีลูกค้าคนไหนตำหนิเรื่องการให้บริการเลย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตลูกจ้างรายดังกล่าว

ต่อมา มีผู้เสียหายซึ่งเคยล้างแอร์กับร้านดังกล่าว เล่าว่า เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา แอร์ที่คอนโดไม่เย็น จึงประสานนิติช่วยหาช่างแอร์เข้ามาซ่อม เมื่อได้เบอร์ร้านมาก็โทร. ไปสอบถาม สิ่งที่ผิดสังเกตคือคอนโดของเธออยู่ที่สุขุมวิท 103 แต่ร้านซ่อมแอร์อยู่ที่รามคำแหง ซึ่งไกลกันมาก เมื่อช่างมาถึงก็บอกว่าต้องเปลี่ยนอุปกรณ์แอร์ที่ชำรุด มีค่าล้างแอร์ ค่าเติมน้ำยาแอร์ รวม 4,375 บาท แต่ช่างลดราคาให้เหลือ 4,000 บาท

ถัดมาอีก 2 เดือน แอร์ตัวเดิมเสียอีก ช่างบอกว่าอะไหล่ตัวเดิมเสียและน้ำยาแอร์หมด แต่ในครั้งนี้อะไหล่ยังอยู่ในประกัน จึงมีเฉพาะค่าน้ำยาแอร์ที่ต้องจ่าย จึงโทร. ไปหาเจ้าของร้าน แต่เจ้าของร้านพูดจาไม่ดีว่า "จะจ่ายได้เท่าไหร่" เธอเอะใจว่า ทำไมถึงไม่มีราคามาตรฐาน แต่ตอนนั้นต้องยอมจ่ายไป จนมาทราบข่าวดังกล่าวจึงพบว่าเป็นร้านเดียวกันที่เคยมาซ่อมให้ ยืนยันว่าเตรียมจะแจ้งความทันที

ขอบคุณ เที่ยงวันทันเหตุการณ์