หลวงพ่อห้ามจน นักธุรกิจขาดทุน 100 ล้าน มาไหว้ขอพร ไม่นานก็หมดหนี้
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่มาถึง ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ทำเอาคนลุ้นรางวัลนั้นรอคอยกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาทางผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่วัดใหม่สามัคคี หมู่ที่ 4 ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ มีพระพุทธรูปที่ช่างพม่าแกะจากไม้ที่ยืนต้นตาย โดยชาวบ้านเชื่อว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ ใครที่ขัดสนเรื่องเงินทอง หรือติดขัดสิ่งใดหากไปขอพรก็จะได้สมความปรารถนา จนได้ชื่อว่า หลวงพ่อห้ามจน ทำให้มีผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาเดินทางมาขอพรอย่างไม่ขาดสาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าวัดดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าช้าเก่า กลางทุ่งนา หมู่ที่ 4 ต.ห้วยโป่ง มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังจุดธูปเทียนเพื่อขอพรจากพระพุทธรูปดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะยืนคล้ายปางห้ามญาติ โดยยกพระหัตถ์ขวาขึ้นเสมอพระอุระ ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปข้างหน้าทั้งสองข้าง เป็นกิริยาห้าม มีลักษณะอ่อนช้อยคล้ายศิลปะพม่า มีแผ่นทองปิดทั่วทั้งองค์
หลังจากกราบขอพรแล้วหลายคนได้ใช้โทรศัพท์มือถือซูม และถ่ายไปตามจุดต่างๆ ขององค์พระ เพื่อส่องหาเลข ชาวบ้านรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนมาขอพรเมื่อหลายวันก่อน ได้ใช้โทรศัพท์ส่องที่ฐานองค์พระ และมองเห็นเป็นเลข 32 จึงได้ไปหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาไว้ เผื่อหลวงพ่อจะช่วยให้หายจนบ้าง บางรายที่ไม่อยากส่องให้เสียเวลา ก็ใช้วิธีล้วงไหซึ่งบรรจุลูกปิงปองที่เขียนตัวเลขไว้ เพื่อนำไปลุ้นโชคต่อไป โดยหยิบออกมา 3 ลูก ก่อนโชว์ให้ดูชัดๆ คือ 5- 8-7 จากการสอบถาม พระมหาดุสิต อิทธิโชโต เลขานุการเจ้าอาวาสวัดใหม่สามัคคี เปิดเผยว่า เมื่อประมาณปี 2559 ตนได้เดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในป่าช้าเก่า ขณะนั้นมีความโทรมมาก แต่ก็มีความเงียบสงบ
ขณะที่จำวัดตนได้ฝันเห็นชายนุ่งขาวห่มขาว เดินเข้ามาในวัด พร้อมทั้งบอกว่าจะมาช่วยพัฒนาวัดแห่งนี้ พร้อมกับชี้ให้ดูต้นไม้ต้นหนึ่งที่ยืนต้น พร้อมทั้งบอกว่าให้จำต้นไม้ต้นนี้ไว้ให้ดี กระทั่งรุ่งเช้าตนได้เดินทางไปฉันเพลร่วมกับพระเถระที่วัดแห่งหนึ่ง และได้เล่าความฝันให้ฟัง และมีพระรูปหนึ่งได้บอกว่า มีต้นไม้ยืนต้นตายอยู่ที่วัด จ.ลพบุรี ตนจึงเดินทางไปดูก็พบว่ามีลักษณะตรงกับในความฝัน จึงได้ขอซื้อและให้ช่างแกะสลักเป็นพระพุทธรูป โดยตั้งใจไว้ว่าจะอัญเชิญมาเป็นพระประธานประจำวัด แต่ปรากฏว่าช่างที่มาแกะสลักเกิดอาการป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ เปลี่ยนช่างหลายคนก็ป่วยเหมือนเดิม จึงได้นำไม้ดังกล่าวใส่รถเพื่อที่จะนำกลับมาที่วัด แต่บังเอิญได้พบกับช่างแกะสลักชาวพม่า และอาสาจะแกะสลักให้
แต่เครื่องมือไม่มีจึงจะขอนำไปแกะที่ฝั่งประเทศพม่า ตนจึงได้ให้ไปและให้ช่างแกะตามความคิดและความชำนาญของตนเอง ผ่านไปไม่นาน ช่างคนดังกล่าวก็นำพระพุทธรูปที่แกะจากไม้ต้นดังกล่าวมาส่งที่วัด มีลักษณะเป็นปางห้ามญาติ โดยยกพระหัตถ์ทั้ง 2 ข้าง อ่อนช้อย งดงาม เป็นอย่างมาก หลังจากนั้นได้นำมาประกอบพิธีพุทธาภิเษก และประดิษฐานเป็นพระประธานไว้ภายในศาลาแห่งนี้ ต่อมาได้มีนักธุรกิจชาว จ.ชลบุรี เดินทางมาทำบุญที่วัด พร้อมทั้งได้ปรับทุกข์ว่าธุรกิจขาดทุนนับร้อยล้านบาท รู้สึกท้อและเครียดมาก ตนจึงให้กำลังใจ
พร้อมทั้งให้ไปกราบขอพรพระพุทธรูปที่แกะจากไม้ภายในศาลา หลังจากนักธุรกิจรายดังกล่าวกลับไปแล้ว หลายเดือนต่อมาได้ติดต่อกลับมาว่า หลังจากกลับไปแล้วธุรกิจก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จนในขณะนี้หนี้ที่มีอยู่นับร้อยล้านบาทได้หมดไปแล้ว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นักธุรกิจคนดังกล่าวก็นำกฐิน ผ้าป่า และมาร่วมทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกปี ตนและชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็ยินดีด้วย และเชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะขอพรจากพระประธานที่ทำจากไม้ก็เป็นได้
จึงได้เรียกกันต่อๆ มาว่า หลวงพ่อห้ามจน หลังจากที่ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ก็มีผู้ที่มีจิตศรัทธาและผู้ที่ขัดสนมากราบขอพร ซึ่งก็มีสมหวังดังตั้งใจหลายราย ทั้งนี้ ตนก็ได้ให้สติญาติโยมว่า นอกจากขอพรขอโชคจากหลวงพ่อห้ามจนแล้ว จะต้องทำงานด้วย ไม่ใช่ว่าจะขอและรออย่างเดียว นอกจากนั้นการที่แต่ละคนจะโชคดีมีโชคลาภ ก็ต้องอยู่ที่บุญวาสนา บุญบารมีของแต่ละคนด้วย
เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews