
สาวทายาทเศรษฐีรำคาญ ไม่พอใจได้มรดกหลายสิบล้าน ทิ้งเกือบหมดให้การกุศล
วันที่ 26 ตุลาคม 2565 เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล นำเสนอเรื่องราวของ มาลีน เองเกลฮอร์น วัย 29 ปี ทายาทตระกูลมหาเศรษฐีในเยอรมนี ที่เพิ่งจะได้รับมรดกมูลค่ากว่าหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐ แต่เพราะเงินเหล่านี้มีมากมายจนเธอไม่รู้จะต้องทำยังไงกับมัน จึงตัดสินใจยกนมรดกที่ได้มากว่า 90-95 % ให้แก่ผู้อื่นแทน
รายงานเผยว่า มาลีน เป็นหลานสาวของ ทราเดิล เองเกลฮอร์น-เวคิอาโต หนึ่งในสมาชิกของตระกูลอุตสาหกรรมอันโด่งดังที่เยอรมนี โดยย้อนกลับไปในปี 2408 ฟรีดริช เองเกลฮอร์น ได้ก่อตั้งบริษัทด้านเคมียักษ์ใหญ่ BASF ขึ้น กระทั่งต่อมาในปี 2540 ผู้สืบทอดก็ได้ขายหุ้นของบริษัทให้แก่ Roche ด้วยมูลค่า 1.1 หมื่นล้านเหรียญ (ราว 4.17 แสนล้านบาท) ทำให้คุณย่าของมาลีนได้รับส่วนแบ่งมาประเมาณ 2.45 พันล้านเหรียญ (ราว 9.2 หมื่นล้านบาท)
และในต้นปี 2565 คุณย่าของมาลีนก็ได้จากไป ทำให้หญิงสาวกลายมาเป็นทายาทที่จะได้รับมรดกมูลค่าหลายสิบล้านเหรียญ แบบไม่ต้องเสียภาษี
อย่างไรก็ตาม มาลีนไม่ได้ต้องการความมั่งคั่งเช่นนี้ และตัดสินใจจะยกเงินส่วนมากให้คนอื่นไป เธอเข้าใจดีว่าการตัดสินใจเช่นนี้ฟังดูแปลกสำหรับหลาย ๆ คน แต่เธอยืนยันว่าแม้ตัวเองจะไม่ได้ต่อต้านความร่ำรวย แต่การได้รับความร่ำรวยมาแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ เธอย้ำว่านับตั้งแต่รู้ว่าย่าตัดสินใจจะยกมรดกจำนวนนี้ให้ตัวเอง เธอไม่ได้แฮปปี้เลย ในทางกลับกัน ยังรู้สึกรำคาญเสียด้วยซ้ำ
ฉันไม่ควรเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับเงินของครอบครัว ที่ฉันไม่ได้ทำงานหามาได้"หญิงสาวเผย และชี้ว่า การจัดการมรดกนี้ต้องใช้เวลามากมาย ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันวางแผนไว้ในชีวิต
เธอรู้เรื่องเงินมรดกก้อนนี้มาไม่ต่ำกว่า 2 ปีแล้ว และกำลังคิดอย่างจริงจังว่าจะกำจัดเงินส่วนมากไปได้อย่างไร แม้ในตอนนี้การบริจาคให้การกุศลจะเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด แต่มาลีนก็ยังไม่พอใจนัก กับความจริงที่ตัวเธอมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะบริจาคเงินให้กับอะไร ทั้งที่เธอไม่ได้ทำงานอะไรเลยเพื่อให้ได้เงินเหล่านี้มา
เธอมองว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิดเพื่อให้ได้เงินก้อนนี้มา แต่เป็นโชคล้วน ๆ ที่เกิดมาในครอบครัวนี้
นอกจากการตัดสินใจทิ้งเงิน 90-95 % จากมรดกหลายสิบล้านเหรียญ มาลีนยังเคยให้สัมภาษณ์กับ VICE วิจารณ์เหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกหลายคน ที่เอาเศษเสี้ยวของความรวยออกมาทำบุญ เป็นเทคนิคให้ตัวเองไม่ต้องจ่ายภาษีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเธอมองว่าพฤติกรรมแบบนั้นไม่ควรถูกยกย่องสักนิด และเธอก็คิดว่าไม่มีใครควรมีเงินมากเกินจินตนาการได้ ในสังคมที่ไร้ความเท่าเทียมกันนี้
อนึ่ง ปัจจุบันมาลีนยังเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเวียนนา ซึ่งเมื่อถูกถามว่ามองภาพตัวเองไว้ในอนาคตอย่างไร หลังเลือกที่จะสละมรดกไปเกือบทั้งหมด เธอตอบว่า"ฉันก็ยังไม่รู้เลยค่ะ แต่ฉันจะทำงานอย่างหนักเหมือนกับทุก ๆ คน
ขอบคุณข้อมูลจาก อ็อดดิตี้เซ็นทรัล