กระแสเริ่มตีกลับ หลัง หมอริท ฝากถึง โตโน่ ได้ 1,000 ล้าน หมอ-พยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม
สำหรับโครงการว่ายน้ำข้ามโขง One Man The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ของพระเอกคนดัง โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ คารานักแสดงชื่อดัง ที่ทำภารกิจว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงไป-กลับ รวมระยะทาง 15 กิโลเมตร เพื่อระดมทุนจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับรพ.นครพนม และ รพ.แขวงคำม่วน สปป.ลาว
นักแสดงหนุ่ม โตโน่ ภาคิน ก็สามารถทำภารกิจว่ายน้ำข้ามโขงในโครงการ One Man and The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ได้สำเร็จ แม้จะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งเรื่องความอันตรายและความเชี่ยวกราดของกระแสน้ำโขงในฤดูน้ำหลาก การต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลทั้งทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และอื่น ๆ รวมถึงที่มีเสียงวิจารณ์เรื่องการบริจาคไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านการแพทย์ได้อย่างถาวร แต่โตโน่ก็ยังเดินหน้าสานต่อภารกิจจนลุล่วง
หมอริท เรืองฤทธิ์ เพื่อนสนิทของโตโน่จากเวทีเดอะสตาร์ ซึ่งเคยเกิดกระแส โน่ริท จิ้นกันถล่มทลาย ได้ออกมาโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ที่จุดโซเชียลให้ลุกเป็นไฟ ว่าการกระทำครั้งนี้ของโตโน่ถือว่าดี ดีมาก ๆ แต่มันไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้จริง
ทั้งนี้ หมอริทเผยว่า ตนยินดีกับการว่ายน้ำของโตโน่ในวันนี้ ดีใจที่ปลอดภัย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก ต้องขอบคุณต่อน้ำใจของโตโน่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยาก แต่จากบทสัมภาษณ์ที่โตโน่พูดหลายครั้ง ว่าแพทย์และพยาบาลเสี่ยงกว่า เหนื่อยกว่า และอยากจะฝากมุมมองนี้ไว้สักนิดว่า
ต่อให้โตโน่ว่ายน้ำข้ามโขงอีก 10 รอบ ได้เงินมากกว่า 1,000 บ้านบาท หมอ พยาบาล ก็เหนื่อยเท่าเดิม ตนขอยกตัวอย่างในฝั่งหมอแล้วกัน เช่นในไทยมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า หมอทำงานหนักคนได้รับค่าตอบแทนเท่าเดิม ซึ่งทุกวันนี้หมอทำงานเกินเวลา ทำงานหนักมาก เกิดภาวะสมองไหล หมอออกจากโรงพยาบาลรัฐกันหมด เมื่อหมอในระบบไม่พอก็ผลิตหมอใหม่ วนลูปไปเรื่อบ ๆ ถึงบอกว่าเงินบริจาคเท่าไรก็ไม่ช่วยให้หายเหนื่อย
คำว่าหมอ พยาบาล เสี่ยง แล้วคำถามคือใครปล่อยให้หมอและพยายาบลต้องเสี่ยง ทำไมผู้มีอำนาจมองไม่เห็นและไม่สามารถจัดการปัญหานั้นได้ หรืองบประมาณไม่พอ ถ้างบประมาณไม่พอทำไมไม่ทำเรื่องขึ้นไป ทำไมต้องรอบริจาค
ส่วนตัวตนมองว่าการบริจาคไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่ต้องมีหลักการ จุดประสงค์ของโครงการและการนำเงินไปใช้อย่างชัดเจน รวมุทั้งยังควรสนับสนุนแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วย ถ้าสื่อสารจุดนี้ได้ คิดว่าคนไม่เห็นด้วยจะน้อยลง และทำให้โครงการมีเหตุมีผลมากขึ้น
เริ่มมีกระแสตีกลับไปที่หมอริท โดยเฉพาะที่บอกว่า ประกันสุขภาพถ้วนหน้านั้นทำให้คนไทยไม่รักษาสุขภาพ ซึ่งต้องบอกว่าไม่มีใครที่อยากป่วยเพื่อไปนอนโรงพยาบาล หลายคนได้ชีวิตกลับคืนมา ไม่ต้องขายไร่ขายนาเพื่อมารักษาตัวเองก็เพราะ 30 บาทรักษา
การไปโรงพยาบาลแต่ละครั้งมีต้นทุนเสมอ ต้องหยุดงานขาดรายได้ ต้องมีค่ารถ บางครั้งโรงพยาบาลอยู่ไกลคนมาเฝ้าก็ต้องเปิดโรงแรมนอน หรือนอนกับพื้นที่โรงพยาบาล การบอกว่าคนกินเหล้าไม่รักษาสุขภาพกันมากเพราะ 30 บาท นั้นไม่ถูกต้อง บางคนรักษาสุขภาพ สุดท้ายก็ป่วย ปัจจัยรอบด้านทั้งนั้น ไม่มีใครอยากป่วยแน่นอน