เผยสาเหตุ สาวร่ำไห้ เกาะรั้วบ้านทวงเงิน 1.8 ล้าน รู้แล้วสงสารมาก
วันที่ 20 ต.ค.65 จากกรณี น.ส.บุษบา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาว จ.อุดรธานี ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี และสื่อมวลชน ว่าถูกคนสนิทยืมเงินไปกว่า 1,800,000 บาท ตอนแรกๆ เสนอดอกเบี้ยและคืนให้ทั้งต้นทั้งดอก นานๆ ไป ยอดยืมเยอะขึ้น สุดท้ายหายไม่ยอมจ่ายหนี้ ติดตามทวงถาม โบ้ยให้ไปเอากับบุคคลที่ 3 ทุกข์และทรมานใจอย่างมาก หนำซ้ำสามีก็จะขอเลิก หากตามเงินจำนวนนี้ไม่ได้
ล่าสุดวันนี้ น.ส.บุษบา ได้ขอความช่วยเหลือจาก นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย เพื่อเป็นคนกลางช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยติดตามยอดหนี้ดังกล่าว โดยเดินทางไปหาลูกหนี้ที่หมู่บ้านจัดสรรหรูแห่งหนึ่ง ในเขตชานเมืองอุดรธานี เมื่อไปถึง น.ส.บุษบา ได้เรียกลูกหนี้อยู่หน้าบ้านและขอร้องให้ใช้เงินที่ยืมไป รวมทั้งให้ออกมาพูดคุยกันเพื่อหาข้อสรุป แต่ลูกหนี้ก็ไม่ยอมออกมา ทั้งที่มีคนอยู่ภายในบ้าน
ระหว่างนั้น น.ส.บุษบา ก็ยืนร้องไห้ร้องเรียกลูกหนี้พร้อมเกาะรั้วบ้านอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง พูดตัดพ้อและระบายความในใจต่างๆ นานา อ้อนวอนให้ลูกหนี้นำเงินที่ยืมไปมาคืน โดยความบางตอนระบุว่า พ่อตนก็ป่วยติดเตียงต้องการเงินรักษาพ่อ ต้องการเงินมาทำมาหากินบอกจะใช้คืนอีกไม่นานก็ไม่คืน ไหนบอกจะไม่ทำให้เดือดร้อน ทำไมมาทำแบบนี้ เวลาไปยืมเงินทั้งร้องไห้จะก้มกราบ แต่นี่ขอไม่คืนตังค์
ในเวลาต่อมาสามีของลูกหนี้ได้ขับรถยนต์มาที่บ้าน เมื่อมาถึงได้รีบลงรถวิ่งหน้าตื่นเข้าไปอุ้มลูกซึ่งอยู่ในบ้าน ยกมือไหว้บอกเจ้าหนี้ว่าที่บ้านนี้ภรรยาตนไม่อยู่ มีแต่ลูกที่อยู่บ้านลูกร้องไห้เพราะมีคนมาร้องหน้าบ้าน และเชิญให้เจ้าหนี้เข้ามาตรวจสอบว่าในบ้านมีภรรยาอยู่หรือไม่ แต่เจ้าหนี้ก็ไม่ได้เข้าไป และให้เบอร์โทรศัพท์ไว้กับ นายภานุมาศ เพื่อจะนัดเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ นายภานุมาศ เจ้าของเพจ เฮียเปี้ยกช่วยด้วย เปิดเผยว่า กรณีนี้เราพาเจ้าหนี้มาทวงเงินตามสิทธิ ตอนนี้เราได้เบอร์โทรศัพท์ของสามีลูกนี้แล้ว จากนี้จะมาการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติ แต่หากไกล่เกลี่ยแล้วไม่ลงตัว คงต้องใช้สิทธิทางศาลต่อไป
ล่าสุดผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามกับสามีขอลูกหนี้ ได้รับคำตอบว่า หลังจากมีการมาทวงหนี้หน้าบ้าน ได้ส่งให้ทนายความแจ้งความไว้เป็นหลักฐานในการที่จะฟ้องร้องต่อศาล เรื่องนี้ทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างรู้ดีว่าเป็นอย่างไร ใครเป็นคนเอาเงินไป ใครเป็นคนจ่ายดอกให้เจ้าหนี้ การที่เขามาทำแบบนี้คิดว่าเขาจะดิสเครดิตภรรยาตนแน่นอน ขอฝากผ่านสื่อมวลชนว่าเรื่องนี้ขอให้อยู่ในกระบวนการของชั้นศาลต่อไป