จากกรณี เจ๊ดา แม่ค้าขายผักชาววังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว ว่าได้รู้จักกับ นายฤทัย (สงวนนามสกุล) ผ่านทางเฟซบุ๊กและพบตัวจริงกัน โดย นายฤทัย เป็นชาว จ.นครราชสีมา แต่มารับเหมาทำแท้งค์น้ำประปาในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี หลังจากคบหาไปมาหาสู่ฝ่ายชายบอกรักและขออยู่ด้วย

ระหว่างนั้นขอเก็บเงินไว้แต่งงานกัน โดยตกลงสินสอดจำนวนเงิน 100,000 บาททองหนัก 4 บาท ฝ่ายชายบอกว่าจะมาสู่ขอหลังจากออกพรรษา แต่ได้หายตัวไปพร้อมสร้อยทองคำ 10 บาท

เจ๊ดา เผยว่า ช่วงก่อนออกพรรษาตนได้จัดงานแต่งลูกชาย นายหฤทัยได้มาขอสร้อยทองคำ 10 บาทใส่ในงานแต่ง หลังจากงานแต่งจบไปแล้วนายฤทัยบอกว่าขอใส่ทองคำต่ออีกหน่อยจะไปทำธุระ ตนยังไม่เฉลียวใจ เพราะตอนนั้นยังเตรียมตัวกันที่จะไปดูชุดเตรียมใส่ในวันแต่งงานด้วย เลยให้สร้อยคอทองคำฝ่ายชายใส่ต่อไปอีก จากนั้น นายฤทัย ได้หายออกจากบ้านไปไม่ติดต่อกลับไม่ติดต่อกลับมาเลย ตนได้ส่งข้อความไลน์ไปหาถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่นายฤทัยได้บอกว่าขอโทษตนเองมีเมียแล้ว ต้องขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไปอย่าแจ้งความเอาผิดเลยและอย่าสาปแช่งขอจบกันเพียงแค่นี้ และจะไปทำงานพื้นที่จังหวัดอื่นตาม

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ต.ค. 65 เจ้ดา ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.อาทิตย์ศ รีปราชญ์ รองผกก.สส.สภ.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยมี พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ จันทร์ประเทศ ผกก. ร่วมรับฟังการเข้าแจ้งความ เจ๊ดา ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ที่เดินทางมาในครั้งนี้เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวในคดีแพ่ง ข้อหาผิดสัญญาหมั้นพร้อมเรียกค่าเสียหายเงินสด 5 แสนบาท อีกด้วยและเป็นการเตือนภัยเพื่อนผู้หญิง ด้าน พ.ต.ท.อาทิตย์ เปิดเผยว่า จะได้ออกหมายเรียกฝ่ายชายพร้อมแจ้งข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์และจะเชิญตัวมาให้ปากคำและไกล่เกลี่ยต่อไป

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางไปยังบ้านของ เจ๊ดา แต่เจ้าตัวไม่ยอมออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ไม่รับโทรศัพท์ก่อนจะขับรถกระบะออกจากบ้านไปขณะที่ทีมข่าวออกมาเฝ้ารอตรงปากทางเข้าออก-บ้านในเวลา 15.50 น.

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ นายรุ่งศักดิ์ ศรีสัมฤทธิ์ พี่ชายของนายฤทัย เผยว่า ทองทั้งหมดเป็นของน้องชายตนไม่ใช่ของเจ๊ดา ทอง 10 บาท เจ๊ดาเป็นคนขอยืมใส่ น้องชายตนไม่ได้มีการขโมยไป เรื่องสินสอดน้องชายได้มาปรึกษาว่าไม่พร้อมจะแต่งเพราะยังมีหนี้สิน แต่ฝ่ายหญิงยังเร่งรัดอยากแต่ง ที่น้องชายตนหายหน้าไปก็เพราะฝ่ายหญิงที่กดดัน ยืนยันน้องชายยังไม่มีภรรยา ดังนั้นการที่ เจ๊ดา ไปแจ้งความดำเนินคดีกับน้องชายตน ไม่ว่าจะข้อหาอะไรก็ตาม หากน้องชายตนถูกเรียกเข้าไปให้ปากคำก็จะมีการแจ้งความกลับข้อหาแจ้งความเท็จ

ระหว่างสื่อลงพื้นที่หาเจ๊ดา พบว่าเจ๊ดาขับรถหนีไม่ยอมคุย

ขอบคุณ ข้อมูลจากทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์ทีวี 34