เปิดประวัติ โน้ส อุดม ก่อนเจอกับประเด็นโดนร้อง หลังฉายเดี่ยว 13

เปิดประวัติ โน้ส อุดม ก่อนเจอกับประเด็นโดนร้อง หลังฉายเดี่ยว 13

เปิดประวัติ โน้ส อุดม กับเรื่องจริง ของศิลปินอารมณ์ดี เจ้าพ่อเดี่ยวไมโครโฟนเมืองไทย ก่อนเจอกับประเด็นดราม่าโดนร้องหลังฉายเดี่ยว 13 เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ฮือฮากันหนักมาก โดยประวัติของเขานั้นจะเป็นไปมาอย่างไร ไปชมกันเลยจ้า

คลิป

อุดม แต้พานิช เดิมมีชื่อเล่นว่า อู๊ด แต่เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า โน้ส มากว่า มาจากคำภาษาอังกฤษ ที่ nose แปลว่า จมูก โดยชื่อนี้มาจากที่เจ้าตัวมีจมูกที่โตและโดดเด่น ทำให้เพื่อนๆตั้งให้แล้วเรียกจนติดปากมาจนถึงทุกวันนี้

เกิดวัที่ 1 กันยายน 2511 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของคุณแม่ทองสุข อารีล้น กับคุณพ่อสมจิต แต้พานิช ครอบครัวมีเชื้อสายจีน มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดยโน้ส อุดม เป็นลูกคนกลาง

หลังจากที่คุณพ่อสมจิต คุณพ่อของโน้สได้จากไปตั้งแต่เข้าอายุได้เพียง 6 ขวบ ทำให้เขาต้องย้ายไปใช้ชีวิตอยู่กับคุณแม่ที่จังหวัดสุรินทร์ โดยสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา จากโรงเรียนวัดศาลาลอย เทศบาล 2 (ปัจจุบันคือโรงเรียนเทศบาล 2 วิภัชศึกษา จังหวัดสุรินทร์) และจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์

ซึ่งช่วงหนึ่งในสมัยวุยรุ่น ได้แอบหนีออกจากบ้านมาอยู่กับญาติ ที่เปิดขายร้านผลไม้อยู่ที่จังหวัดชลบุรี จากนั้นเขาก็มาเรียนด้านศิลปะที่วิทยาลัยเพาะช่าง แต่เรียนได้เพียง 2 ปีเพียงเท่านั้นก็ต้องออก เพราะไม่มีเงินเรียนต่อ

ถึงแม้จะเรียไม่จบ แต่ด้วยความถนัดและความชื่นชอบในศิลปะ ทำให้โน้ส อุดม มีแรงผลักดันเริ่มทำงานแรกในชีวิต ด้วยการเป็นนักเขียนการ์ตูน ได้ค่าวาด 150 บาท ต่อการ์ตูน 2 ช่อง โดยมีนามปากกาว่า “Note Namun” (โน้ต หน้ามึน)

ต่อมาได้อ่านนิตยสาร ฉบับแรกบนแผง ก็รู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือและอยากร่วมงานด้วย จึงได้ไปสมัครเป็นพนักงานฝ่ายศิลป์ ทำหน้าที่ออกแบบจัดทำภาพปกและภาพประกอบต่างๆ นอกจากนั้นเขายังคิดค้นพบความสามารถทางด้านการเขียน จนเกิดแรงบันดาลใจอยากเขียนหนังสือดูบ้าง จึงได้มีผลงานแรกออกมาคือ ครั้งหนึ่งในชีวิตกับแตงโมปั่น ก็เรียกได้ว่าเป็นนการแจ้งเกิดได้ดีเป็นอย่างมาก

หลังจากงานได้ตีพิมพ์ เขาก็เริ่มรับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ โดยใช้นามปากกาว่า "โน้ตหน้ามึน หลานเจ๊นี้ขายผลไม้" ควบคู่ไปกับตำแหน่งฝ่ายศิลป์ของหนังสือ หลังจากนั้นโน้สอุดม มีผลงานเขียนของตัวเองมากถึง 21 เล่ม อีกทั้งบางเล่มยังได้รับการแปลจากต่างประเทศอีกด้วย

เส้นทางการก้าวเข้าสู้วงการบันเทิง โน้ส อุดม ได้มีความสามารถทางการพูดและการเขียน เข้าสู่วงการบันเทิง โดยเริ่มจากการเป็นตัวประกอบในรายการวิก 07 ของเจเอสแอล และอีกหลายรายการตามเข้ามา

จนผู้ใหญ่ในวงการได้เห็นแววและประทับใจในความสามารถ จึงชักชวนมาร่วมงานในรายการ ยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ คอมเมดี้โชว์ ที่ฮิตเป็นอันดับต้นๆของช่อง 5 ในยุคสมัยนั้น ทำให้โน้ส ได้แจ้งเกิดจากวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ในชื่อ เสนา โน้ส

นอกจากจะทำงานเป็นนักแสดงตลกและนักเขียนแล้ว ยังมีผลงานทางด้านเพลงด้วย เช่น การแต่งเพลง แหล่หารสอง ประกอบโฆษณา รวมพลังหารสอง จนฮิตติดหูไปทั่วประเทศ และผลงานการแสดงอีกมากมายหลายเรื่อง ต่อมาในปี 2562 โน้ส อุดม ได้มีผลงานเพลงในนามวง DTK BOY BAND โดยเป็นการรวมวงเฉพาะกิจกับ ก้อง ห้วยไร่ และสิงโต นำโชค

จากความสำเร็จทางบทบาทต่างๆ นอกจากนี้โน้ส ยังได้เป็นผู้ริเริ่มการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนในเมืองไทย ได้ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากรายการยุทธการขยับเหงือก แล้วหันไปจัดเดี่ยวไมโครโฟน เป็นการแสดงสดพูดตลกบนเวทีคนเดียว ที่มีการจัดครึ่งครั้งแรกในปี 2538 และนั่นก็เป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้โน้ส อุดม กลายเป็นตลกเดี่ยวชั้นแนวหน้าของประเทศ จนเกิดเดี่ยวอื่นๆตามมาเรื่อยๆและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันมีเดี่ยวไมโครโฟนมาแล้ว 13 ครั้ง และเปิดรอบการแสดงพิเศษอีก 4 ครั้งกันเลยทีเดียว

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ