โตโน่ เปิดใจ หลังโดนว่า นักบุญทุนชาวบ้าน
เรียกว่าดราม่ากำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กรณีที่นักร้องและนักแสดงหนุ่ม โตโน่ ภาคิน จะทำภารกิจว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงเพื่อหาเงินบริจาคช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลน ซึ่งชาวเน็ตมองว่าเป็นการเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ทั้งยังสร้างภาระให้กับผู้เกี่ยวข้องที่ต้องช่วยกันรักษาความปลอดภัยให้กับโตโน่ด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยิ่งเป็นประเด็นเดือดมากขึ้น เมื่อมีเพจหนึ่งออกมาแฉเอกสารแผนการจัดงาน ซึ่งมีการสั่งให้เตรียมพร้อมของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน จัดสถานที่มากกว่า 33 รายการ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า ใช้งบประมาณส่วนไหนว่าจ้างออร์แกไนซ์มาจัดงาน และจะคุ้มค่าในการจัดงานมากน้อยแค่ไหน พร้อมซัดด้วยว่าเป็นนักบุญทุนชาวบ้าน มีเป้าหมายเพื่อการกุศลแต่กลับมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
โตโน่ เปิดใจ ว่ายน้ำหาเงินได้มากสุด คราวก่อนได้เกือบ 20 ล้านบาท ล่าสุด (17 ตุลาคม 2565) ช่องยูทูบ อุ๋ย บุดด้าเบลส มีการเผยบทสัมภาษณ์ของ โตโน่ ภาคิน โดยเริ่มเข้าเรื่องจากคำถามที่ว่า ทำไมถึงเลือกวิธีนี้ ซึ่งโตโน่ก็เผยว่า ตนเคยทำมาหลายวิธีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง เก็บขยะ เล่นคอนเสิร์ต ตอนน้ำท่วมก็เข้าไปช่วยเหลือ ตอน PM 2.5 ก็ออกมาช่วยรณรงค์ แต่ทั้งหมดที่เคยทำมา ว่ายน้ำหาเงินได้มากสุด คราวที่แล้วได้เกือบ 20 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้มาก็นำไปช่วยศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน
ถ้าเกิดกรณีที่แย่ที่สุดถึงขั้นจมน้ำ ใครจะเป็นคนเข้าไปช่วยเหลือ
โตโน่ เผยว่า คนที่จะเข้าไปช่วยคือทีมที่ฝึกมาด้วยกันกับตน ซึ่งในทีมทั้งหมดมี 5 คน เป็นทีมที่ว่ายมาด้วยกันตั้งแต่โครงการ "ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย" โดยคนในทีม 2 คน เป็นนักกีฬาว่ายน้ำจากราชนาวี ที่เป็นทั้งเพื่อนและครูของโตโน่ ส่วนอีก 1 คน เป็นผู้หญิงคนเดียวในทีม ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ และอีกคนคือน้องเขยของโตโน่ ซึ่งเป็นนักกีฬาว่ายน้ำจากขอนแก่น ส่วนทีมกู้ภัย ก็เป็นทีมกู้ภัยของโตโน่ ที่ทางยามาฮ่าส่งมาให้ เพราะโตโน่เป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยจะมีทีมขี่เจ็ตสกีคอยมาตามดูแล ดังนั้นก็สบายใจได้ ถ้ากลัวว่าตนจะไปรบกวนใคร ซึ่งค่าใช้จ่ายทีมว่ายน้ำตนก็เป็นคนออก ส่วนทีมงานของยามาฮ่า ทางยามาฮ่าก็ช่วยออกให้
ไม่ให้ทีมกู้ภัยมาดูแล เพราะต้องการทีมที่ฝึกมาด้วยกัน โตโน่ กล่าวว่า ตนไม่ให้ทีมกู้ภัยมาเลย เพราะต้องการทีมที่ฝึกมาด้วยกัน อยากใช้ขบวนที่น้อย เพราะดูแลง่าย ไม่ต้องรบกวนใคร อยากใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด ต้องการทีมที่ฝึกมาด้วยกันเพื่อการสื่อสาร รวมถึงจะได้ไม่ต้องไปกีดขวางเส้นทางแม่น้ำโขงทั้งลำน้ำ อย่างไรก็ตาม ในกีฬาต่าง ๆ มันต้องมีหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินที่ต้องไปด้วยอยู่แล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาล จ.นครพนม ก็ต้องการที่จะมาช่วยอยู่แล้ว ส่วนทางจังหวัด ทางเทศบาล ก็จะได้ในเรื่องของการท่องเที่ยวด้วย อีกทั้งติดต่อกับทางฝั่งลาวไว้หมดแล้ว ว่าจะมีการว่ายน้ำไป ซึ่งทางลาวก็ยินดีที่โตโน่จะไปช่วยเหลือโรงพยาบาลของลาว และทางประเทศลาวได้ส่งรถพยาบาลมาช่วยโตโน่ด้วย ไม่ท้อกับคำเหน็บแนม นักบุญทุนคนอื่น
แต่รู้สึกห่วงคุณหมอและพยาบาล กลัวโครงการจะสะดุด โตโน่ เผยว่า ได้เห็นชื่อตัวเองติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนเจอแบบนี้ แต่เป็นห่วงคุณหมอกับพยาบาล เพราะตอนที่เอาพระเครื่องหลวงตามหาบัวมาให้กับมือ คุณหมอกับพยาบาลร้องไห้และกล่าวขอบคุณน้ำใจของโตโน่ที่จะมาช่วย ตนไม่สนว่าคนจะเข้าใจตนไหม แต่กลัวคนเห็นข่าวแล้วโครงการจะหยุดลงแค่นี้ ยืนยันว่าการว่ายน้ำ การมาช่วยคนในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าตนเป็นคนดีกว่าใคร แค่อยากจะช่วยคุณหมอ คุณพยาบาล และคนที่ลำบาก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ตนก็ไม่เสียใจ ทุ่มเทเต็มที่ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ไม่มีอะไรค้างคาใจ ไม่สำคัญว่าใครจะอยู่ได้นานกว่ากัน แต่สำคัญว่าระหว่างที่เราอยู่เราทำอะไร ทั้งนี้ สามารถรับชมบทสัมภาษณ์ทั้งหมดของ โตโน่ ภาคิน ได้ทางช่องยูทูบ อุ๋ย บุดด้าเบลส