ยายร่ำไห้วอนช่วยเหลือ เถ้าแก่จับหลาน หลังลูกชายก่อเรื่องแล้วหนี

ยายร่ำไห้วอนช่วยเหลือ เถ้าแก่จับหลาน หลังลูกชายก่อเรื่องแล้วหนี

วันนี้ 14 ต.ค.65 นายวีระพล รักเสมองวงศ์ รองประธานเทศบาลเมืองบ้านดุง จ.อุดรธานี และผู้สื่อข่าวในท้องที่ ได้รับการร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือจาก นางคำ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 79 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ว่า นายวัฒนา ชัยพรมมา อายุ 26 ปี (หลานชาย) ถูกเถ้าแก่ร้านซีฟู้ดแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร กักตัวเอาไว้และตัดขาดการติดต่อกับญาติไปตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.65 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้เลย และไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง

โดย นางคำ เล่าว่า ตนเป็นยายของนายวัฒนา โดยนายวัฒนาไปทำงานกับนายชาติซึ่งเป็นลูกชายตน ที่ร้านจำหน่ายอาหารทะเลซีฟู้ดชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และมีอีกสาขา ที่ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา

เมื่อไม่นานมานี้ตนได้รับโทรศัพท์จากเจ๊เจ้าของร้านซีฟู้ดว่า นายชาติลูกชายตนได้เชิดเงินค่าอาหารทะเลของเถ้าแก่ไป จำนวน 250,000 บาท แล้วติดต่อไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงจับตัวหลานชายเอาไว้เป็นตัวประกัน ให้ตนรีบหาเงินไปคืน หรือไม่ก็ติดต่อนายชาติให้นำเงินไปคืนโดยด่วน นอกจากนี้ทางนั้นยังบอกอีกว่า หากไม่นำเงินจำนวนดังกล่าวไปคืน ให้เตรียมโล-งไว้รอหลานชายได้เลย

ตอนแรกตนนึกว่าพูดเล่น พอโทรไปเบอร์ลูกชายก็ไม่มีใครรับ จากนั้นจึงรีบโทรไปหาหลานชายก็ไม่มีใครรับอีก จนเจ๊เจ้าของร้านฯโทรมาบอกว่า จับหลานชายไว้เป็นตัวประกัน เพราะถูกลูกชายตนเชิดเงินหนี ตอนนี้ตนตกใจและเป็นห่วงหลานชายมาก ห่วงว่าหลานชายจะเป็นอะไรไป อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยหลานชายด้วย เขาเป็นหลานที่ตนรักมาก เขาไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ลูกตนทำ ตอนนี้กลัวหลานจะถูกทำร้า-ย ซึ่งวันที่ 15 ต.ค. ตนจะไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อขอความช่วยเหลือ

ทางด้าน น.ส.จ๋า ภรรยาของนายชาติ ซึ่งเจ้าตัว เล่าว่า ทางเถ้าแก่ร้านซีฟู้ดก็โทรมาหาตนเช่นกัน บอกว่าสามีเชิดเงินไป 250,000 บาท ให้รับผิดชอบหาเงินมาคืน ตนก็บอกกลับไปว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับสามี และไม่รู้เรื่องด้วย แต่เขาทางนั้นบอกว่า จะมายึดรถ ตนก็บอกไปว่าทำแบบนี้ไม่ได้

เพราะตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และพยายามติดต่อสามีแล้วแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ส่วน นายวัฒนา (หลานชาย) สามีเอาไปทำงานด้วยได้ 3 ปีแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ทางญาติติดต่อสามีและหลานชายไม่ได้เลยทั้ง 2 คน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ