แม่เอ๋ ร่ำไห้ เล่าวินาทีสูญเสียสามี ค่อม ชวนชื่น ทำไจไม่ได้จนไม่อยากอยู่แล้ว
ยังคงเป็นดาวตลกที่อยู่ในใจแฟนๆตลอดไป สำหรับ น้าค่อม ชวนชื่น ที่ล่วงลับจากการติด cv-19 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว และแฟนคลับทั่วประเทศ จนเวลาผ่านมาแล้วเป็นปี ครอบครัวของตลกชื่อดัง อย่าง สาวไอซ์ ไอซ์ ณพัชรินทร์ และ คุณแม่เอ๋ ประภาศรี ลูกสาวและภรรยา ก็ยังคงทำใจถึงเรื่องนี้ไม่ได้
โดยล่าสุด สาวไอซ์ได้ควงคุณแม่เอ๋ ออกมาเปิดใจถึงวินาทีที่ต้องสูญเสียคุณพ่อผู้เป็นที่รัก ผ่านรายการ คุย แซ่บโชว์ โดยได้เผยว่า ระยะเวลาที่ผ่านมาปีกว่า ตอนนี้ดีขึ้น แต่ก็ยังคงมีร้องไห้ เมื่อพูดถึงขึ้นมา โดยไอซ์ กล่าวว่า ในตอนแรกแม่เอ๋ร้องไห้ทุกวัน จนเธอไม่กล้ามองผู้เป็นแม่ เพราะดูโทรมลงไปเยอะ และเอาแต่นั่งอยู่บนโต๊ะที่เคยนั่งกับพ่อ จมอยู่กับความดิ่ง แต่เวลาผ่านไปก็ค่อยๆดีขึ้น เพราะพยายามดูแลตัวเอง
ทั้งนี้แม่เอ่ได้เผยถึงวินาทีที่รู้ว่าสามีติดcv-19 ว่า ตอนหมอโทรมาบอกว่าพี่ค่อมติดโควิด เหมือนใครมากระชากใจ คำว่าร้องไห้โหยหวนรู้เลยว่ามันเป็นยังไง ตัวเองต้องแอบไปร้องไห้หลังบ้านไม่ให้พี่ค่อมได้ยิน เราไม่รู้จะทำยังไง เราทำใจไม่ได้ที่จะไปบอกแกแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ต้องบอกว่าผลทุกคนออกมาแล้ว ทุกคนไม่ติด แต่ผลของเธอมันยังไม่ชัดเจน หมอขอตรวจซ้ำอีกรอบ แล้วหมอแนะนำว่าให้เธอแยกอยู่บนห้องได้ไหม เขาก็ลุกขึ้นไปอยู่บนห้อง ตอนนั้นคิดว่าเราเป็นแทนดีกว่า เราไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไร มันเป็นภาพที่แย่มาก ที่แกเดินขึ้นไป
หลังจากผลของค่อม ชวนชื่น ชัดแล้วว่าติด จึงได้ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนที่แม่เอ๋จะติดและเข้ารักษาตามไป โดยสามีอยู่ชั้น 11 แม่เอ๋อยู่ชั้น 16 นะ ในช่วงแรกโทรคุยกันตลอด แต่จากนั้น 3 วัน เขาก็ทรุด จนต้องย้ายโรงพยาบาล พร้อมตัดพ้อ เราจะมารักษาอยู่โรงพยาบาลนี้เพื่ออะไร อุตส่าห์ตามสามีมารักษาอยู่ที่นี่ แล้วทำไมสามียังหนีไปอีก
ทั้งนี้ยังเผยความรู้สึกวินาที่ที่รู้ว่าสามีจากไปอย่างไม่มีวันกลับจนตัดสินใจที่จะปลิดชีวิตตนเอง ว่า ณ ตอนนั้นเราเหมือนช็อก จะร้องไห้ยังไงดี จะทำยังไงดี คร่ำครวญว่าทำไมๆ ทำไมต้องมาทิ้งกัน ทำไมต้องมาจากกัน ตอนนั้นไม่อยากอยู่แล้ว อุตส่าตามมาหา ก็ยังหนีไปอีก อยากกระโดด ไม่อยากอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นโชคดีประตูเขาปิดแล้วมันก็หนาเกินไป เครียดจนทุกอย่างในร่างกายดิ่งหมด
ซึ่งที่ผ่านมาทั้งคู่มักจะถูกบอกว่าให้ทำใจและมูพออนเสมอ แต่แม่เอ๋เผยว่า ถ้าลองมาดิฉัน สามีฉันไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็ง ไม่ได้เป็นไข้ แต่กลับจากไปด้วยโรคcv-19 สเต็ปของเขาคือ 1,5 และ 10 คนอื่นที่เป็นมะเร็งหรืออะไร มีเวลานับถอยหลัง มีเวลาให้ทำใจ ตั้งแต่โรงพยาบาลโทรมา แล้วบอกว่าสามีติดโควิด
ถ้าวันนั้นรู้ว่าตนจะติดด้วย ตนจะกอด จะหอม กอดกันให้แน่นๆกว่านั้น เพราะไม่คิดว่าเขาจะไปแล้วไม่กลับมา ส่วนด้านลูกสาวอย่างไอซ์ วันนี้กลับมาใช้ชีวิตปกติหรือยัง เธอกล่าววว่ามันต้องทำให้ได้ คุณแม่ก็ยังไม่เต็มร้อย ถ้าเราอ่อนแอ เราล้มมันก็จะกลายเป็นล้มแบบโดมิโน่ไปเลย เพราะฉะนั้นเราต้องยืนให้ได้ก่อน พอเรายืนได้ เราก็จะบอกแม่ได้ ต้องทำให้ตัวเองเข้มแข็งให้เร็วกว่ามากที่สุด
และคำถามที่ว่าทำไมแม่เอ่ถึงรักค่อม ชวนชื่นมากขนาดนี้ แม่เอ๋กล่าวว่า บางคนเคยบอกว่าให้นึกเรื่องที่ไม่ดีของแก แล้วเราจะได้มูฟออนได้ แต่เชื่อไหม ดิฉันอยู่กับแกมา 36 ปี ดิฉันยังหาความไม่ดีของเขาไม่เจอเลย เขาเป็นคนที่รักลูกและรักเมียมาก เมียต้องอันดับ1 ลูกอันดับ2 เรื่องที่เขาทำคือเรื่องซ่องเงิน แต่มันไม่ใช่ปัจจัย เขาซ่อนเงินแอบไปออกรถให้ลูก ซ่อนเงินแล้วขับรถดิฉันหายไปครึ่งวันแล้วขับกลับมาพร้อมป้ายแดง เช้ากองนัด 10 โมง 7 โมงออกจากบ้าน ถ้าออกเลิก 5 โมง 5 โมงครึ่งถึงบ้าน สามีดิฉันไม่เคยหายไประหว่างทางและเขาไม่เคยว่า นินทา หรือให้ร้ายใครเลยสักครั้งเดียว
ชมคลิป
เรียบเรียง siamnews