กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 12-18 ตุลาคม 2565 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 12-15 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย

ขณะที่ในช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางและเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนใต้ ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 14-15 ตุลาคม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนเพิ่มขึ้นโดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง

ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจะปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย และขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณฝนฟ้าคะนอง

ภาคเหนือ ช่วงวันที่ 13-15 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 10-20% ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ตุลาคม อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และมีฝนฟ้าเล็กน้อยบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงวันที่ 12-13 ตุลาคม อากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนฟ้าเล็กน้อยบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 14-15 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 20-40% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง และในช่วงวันที่ 16-18 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 10-20% ของพื้นที่กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง ช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม อากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนฟ้าเล็กน้อยบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 20-40% ของพื้นที่ และในช่วงวันที่ 17-18 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 10-20% ของพื้นที่กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก ช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม อากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนฟ้าเล็กน้อยบางพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 15-16 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 20-40% ของพื้นที่กับมีลมแรง และในช่วงวันที่ 17-18 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 10-30% ของพื้นที่กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ช่วงวันที่ 12-15 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ในช่วงวันที่ 16-18 ตุลาคม ฝนฟ้าคะนอง 60-70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ช่วงวันที่ 13-15 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 40-60% ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ช่วงวันที่ 16-18 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 60-70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม อากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนฟ้าเล็กน้อยบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 15-16 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 20-40% ของพื้นที่ และในช่วงวันที่ 17-18 ตุลาคม มีฝนฟ้าคะนอง 10-20% ของพื้นที่กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส