เผยโฉมหน้าหนุ่ม ชกพนักงานจดมิเตอร์ หลังเข้าไปตัดไฟฟ้าบ้านที่ค้างชำระ
เรียกได้ว่าใครจะคิดว่าอาชีพนี้ก็อันตรายเหมือนกัน หลังเข้าไปตัดไฟฟ้าบ้านที่ค้างชำระ แต่ถูกระทำอย่างหนัก เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 12 ต.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูบางหลวง ได้นำหมายค้นของศาล จ.ปทุมธานี เพื่อไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 6/2 ม.4 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของชาย 2 คนตามภาพคลิปวิดีโอที่ได้ร่วมกันก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ฯ นำกำลังเดินทางไปตามเป้าหมาย ก็ได้รับแจ้งจากสายว่า 1 ในชายกระทำนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาพร้อมกับญาติคนหนึ่ง จึงนำกำลังติดตามไป และได้พบกับ นายอดุลย์ อาดำ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามภาพคลิปวิดีโอ จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก พร้อมกับนำหมายศาลเข้าค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นโดยมี นายอานนท์ อาดำ อายุ 34 ปี อยู่ในบ้านพร้อมกับผู้เป็นแม่และญาติอีก 2 คน ตรวจค้นเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายนอกจากกัญ-ชาจำนวนหนึ่ง แต่ได้ให้ นายอานนท์ ดูภาพตามคลิป พร้อมสอบถามว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ที่ร่วมกันทำร้ า ย นายจิรศักดิ์ อาจสำอางค์ อายุ 43 ปี โดยนายอานนท์ ตอบว่าใช่ แต่ไม่ยอมที่จะเดินทางมาให้ปากคำที่โรงพัก เจ้าหน้าที่จึงได้ถอนกำลังกลับ พร้อมได้แจ้งกับทางญาติว่าจะมาอีกครั้งพร้อมหมายจับ และจะไม่มีการพูดคุยเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น
ต่อมา ขณะที่ พ.ต.อ.วรพจน์ ชูเชิด ผกก. กำลังสอบปากคำ นายอดุลย์ ปรากฏว่าญาติได้นำตัว นายอานนท์ เดินทางมาที่โรงพัก จึงได้ทำการสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุตามคลิปวิดีโอจริง โดย นายอดุลย์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนและญาติพี่น้องนั้นมีความคับแ ค้ นใจคู่กรณีมานาน เนื่องจากเมื่อประมาณ 3-4 เดือนก่อน คู่กรณีได้มาตัดไฟที่บ้านตน ซึ่งขณะนั้นมีแม่ที่อายุมากแล้วและสายตามองไม่ค่อยเห็นอยู่บ้าน พอรู้ว่าถูกตั ดไฟโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ญาติพี่น้องเกิดความไม่พอใจจึงรอจังหวะที่จะสอบถาม จนกระทั่งในวันเกิดเหตุคู่กรณีขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา จึงเรียกให้จอด ขณะยังไม่ทันเจรจาพูดคุย พี่ชายตนได้เดินตามออกมา เมื่อคู่กรณีเห็นพี่ชายจึงจะขับรถหนี ตนจึงได้ดึงรถเอาไว้ แล้วมีการชกกัน โดยพี่ชายได้เข้ามาช่วย และชกไป 1 ครั้ง จากนั้นมีญาติมาห้ามไว้
ส่วนรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีนั้น นายอานนท์ ยอมรับว่า ขณะที่น้องชายได้ชกกับคู่กรณีที่ตกไปในคูน้ำข้างทาง ตนเห็นว่ารถจักรยานยนต์เครื่องยังไม่ดับ จึงได้บิดคันเร่งทำให้รถพุ่งตกลงไปในคลองบางโพธิ์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งคู่ ร่วมกันทำร้า-ยร่า-งกายผู้อื่น และทำให้เสียทรัพย์ พร้อมกับนำตัวไปตรวจหาสารที่ รพ.ลาดหลุมแก้ว โดยพบว่า มีสาร ในร่ าง กาย จึงได้แจ้งข้อหาเส-พส-ารเส-พติดให้โทษ (ประเภท 1) ก่อนควบคุมตัวเข้าห้องขังทันที
ขอบคุณ ข้อมูลจากไทยรัฐ