ชีวิตที่ไม่ธรรมดา เนสตี้ สไปร์ทซี่ สวยสับ รวยเป็นล้านในวัย 16 ปี

ชีวิตที่ไม่ธรรมดา เนสตี้ สไปร์ทซี่ สวยสับ รวยเป็นล้านในวัย 16 ปี

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนสวยถ้าพูดถึงเน็ตไอดอลดัง คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เนสตี้ สไปร์ทซี่ หรือ นิพิฐพงศ์ รักตน เน็ตไอดอล ชาวจังหวัดพังงา ที่โด่งดังตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จากการอัดคลิปรีวิวการแต่งหน้า สอนแต่งหน้าผ่านการไลฟ์เฟซบุ๊กของตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ เนสตี้ สไปร์ทซี่ เคยมาเปิดใจพูดถึงชีวิตของตัวเอง ในรายการแฉ ของพิธีกรปากกล้า มดดำ คชาภา

จากเน็ตไอดอลใน วัย 10 ขวบ ในวันนั้น กลายเป็นสาวสะพรั่งวัย 16 ปี เนสตี้ สไปร์ทซี่ ก็ได้เปิดใจว่า ช่วงนี้มาอยู่กรุงเทพฯ 2 เดือน เพราะปิดเทอม ที่เห็นผมยาวคือ ต่อผม ถ้าเปิดเทอมก็เอาออก กลายเป็นนักเรียนชายเหมือนเดิม ที่ผ่านมาตนเองก็เดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพฯ และพัทลุง ตอนนี้เลยอยากเก็บเงินซื้อบ้านที่กรุงเทพฯ เป็นของตัวเอง

เพราะทุกวันนี้เวลาบินมาทำงานก็ไปอยู่บ้านน้า เป็นบ้านหลังเล็กๆ ตอนนี้ขอเก็บเงินซื้อบ้าน เพราะอีกไม่นานก็จะมาเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ การทำงานก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเดินทาง นอกจากนี้ เนสตี้ สไปร์ทซี่ เน็ตไอดอลดัง ยังเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้โด่งดังว่า เป็นเพราะเห็น คุณแม่ เล่นเฟซบุ๊ก ยูทูบ เรารู้สึกอยากหาเงินดูแลครอบครัว

เพราะที่บ้านยากจน พ่อแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำ วันๆ แทบไม่พอกินด้วย เวลานอนก็นอนรวมกันในห้องโถง เราเคยดูละคร เห็นในทีวีมีห้องคุณลูก ห้องคุณพ่อคุณแม่ เราก็อยากมีห้องส่วนตัวแบบนั้นบ้าง เคยบอกแม่ว่าเราจะทำให้ได้ โดยงานแรกในชีวิตตื่นเต้นมาก ได้เงิน 500 บาท ไลฟ์ให้เขาไป 3 ชั่วโมง จากนั้นงานที่ 2 ยิ่งตื่นเต้น เพราะแค่ถ่ายรูปถือสินค้าได้เงินมา 10,000 บาท

ตอนนั้นยังไม่รู้จักค่าตัวอะไรเลย บอกพี่เขาว่าให้เท่าไรเอาหมด ให้หนูทำงานอะไรก็ได้ ทุกงานก็เอาเงินให้แม่เก็บไว้หมด ใช้เวลาเพียง 2 เดือน ก็ได้เห็นเงิน 1 ล้านบาทแล้ว ซึ่งมันเร็วมาก แต่ที่ผ่านมาสามารถซื้อบ้านได้แล้ว 2 หลัง ซื้อวัวให้พ่อประมา 30-40 ตัว ซื้อรถยนต์ให้พ่อ 2 คัน

ซื้อรถยนต์ให้แม่ 1 คัน มีที่ดินอีกหลายที่ ก่อนหน้านี้มีแค่สวนยาง ตอนนี้มีสวนปาล์มแล้ว สำหรับสิ่งที่อยากทำต่อจากนี้ คือ พอย้ายเข้ากรุงเทพฯ จะต้องมีรถ 1 คัน มีบ้าน 1 หลัง และต่อไปจะประกวดมิสทิฟฟานี่ และ มงต้องลงหนูให้ได้ ตั้งเป้าหมายไว้เราจะได้เตรียมตัวและมีความมั่นใจ

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ