กานต์ วิภากร เผยโมเมนต์กอดกันร้องไห้ ผิดเองที่เลี้ยงลูกไม่เป็น

กานต์ วิภากร เผยโมเมนต์กอดกันร้องไห้ ผิดเองที่เลี้ยงลูกไม่เป็น

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ได้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกหน หลังจากที่ กานต์ วิภากร ภรรยาของร็อกเกอร์ระดับตำนาน เสก โลโซ ออกมาโพสต์เดือดประกาศตัดขาดลูกทั้ง 2 คนอย่าง เสือ เสฏกานต์ และ กวาง กรกวี เพราะปรี๊ดกับข้อความที่ลูกชายโพสต์ว่า บางคนชอบเล่านิทาน เล่าเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ เล่าไปจนหลอนคิดว่าตัวเองอยู่ในนิทาน

คิดว่านิทานที่เล่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ที่จริงมันก็เป็นแค่นิทาน ล่าสุด 19 กันยายน 2565 กานต์ วิภากร มีการเคลื่อนไหวผ่านทางอินสตาแกรมอีกครั้ง ด้วยการโพสต์ข้อความสุดเศร้าว่า เสียงสะอื้นไห้อย่างทุกข์ระทม ทุกวันตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา พ่อต้องคอยปลอบตลอดเวลาและไม่รู้จะทำยังไง บ่อยครั้งที่มีปัญหากันเรื่องร้ายนี้

พ่อจะเศร้าเสียใจและแอบถ่ายรูปส่งไปให้พวกเขา แม่ร้องไห้คิดถึงเสือ กวางทุกวันเลย แต่พวกเขาบอกถ้าคุยเรื่องแม่ ไม่คุย เมื่อคืนวานนี้ร้องไห้ตั้งแต่ตี 2 - ตี 5 ครึ่ง ตื่นขึ้นมา ร้องไห้อีก 1 ชม. แต่พยายามหยุดร้องให้ได้ แสนรันทดชีวิตตัวเอง จะไปอยู่ที่อื่น เพื่อให้เด็กๆ มาอยู่ในบ้านนี้ กานต์ไปอยู่คนเดียวได้ แต่เสกไม่ยอม

ถ้าพวกเขาต้องการให้กานต์กับเสกพรากจากกัน ให้เสกทิ้งกานต์ แล้วเขาจะได้ไม่ผิดหวังในตัวพ่อ กานต์ก็ยินดี ให้อยู่ดูแลพ่อและน้อง ยินดีจากลา คุยกันหลายรอบแล้วเรื่องนี้ ยังไงเขาก็ไม่ยอม เรา 2 คนร้องไห้ด้วยกันบ่อยครั้ง เสกขอโทษกานต์ ร้องไห้หนัก เขาพูดและร้องไห้สะอึกสะอื้น ฉันผิดเอง ฉันเลี้ยงลูกไม่เป็น ฉันขอโทษ กอดกันร้องไห้

รันทดเหลือเกิน ทุกอย่างคือเรื่องจริง เบื้องหลังของ Sek Loso กานต์ ขอให้เรื่องร้ายนี้จงเป็นวิบากกรรมสุดท้ายของครอบครัวเรา เราเริ่มก้าวข้ามไปได้บ้างแล้ว ขอให้ความสุขเกิดขึ้นกับเราด้วย มันเป็นความเครียดสะสมและพลังลบ อารมณ์ไม่นิ่ง เมื่อคืน บอกเสกให้พาไปส่งสมเด็จเจ้าพระยาหน่อย ก็ไม่พาไป ลูก ๆ

ต้องการแบบนั้นก็จะไปสมเด็จให้ตามคำขอ หมดคำพูดแล้ว ขอโทษเพื่อน ๆ ที่ทำให้รำคาญกับเรื่องวุ่นวายนี้ ที่ไม่จบสักที ขอโทษ ที่ไม่เคยดี เป็นแค่คน ๆ เดียวที่รักเธอ ผิดที่ฉันนั้นดูแลเธอไม่ได้ จากนั้นก็มีชาวโซเชียลเข้าไปให้กำลังใจและบอกให้กานต์ปล่อยวางในส่วนที่ปล่อยได้ เวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ซึ่งหลายคนเข้าใจคนเป็นแม่ พร้อมแนะให้ลองใช้ธรรมะเข้าช่วย

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ