เปิดภาพ น้องฟิล์ม ก่อนดับในป่า เพื่อนเผยมีแชทที่คุยกัน

เปิดภาพ น้องฟิล์ม ก่อนดับในป่า เพื่อนเผยมีแชทที่คุยกัน

จากกรกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เชิญครูฝ่ายปกครองโรงเรียนมัธยมสตึก อ.สตึก ไปให้ถ้อยคำ หลังจากน้องฟิล์ม อายุ 17 ปี ชั้น ม.6/6 โรงเรียนมัธยมสตึก เสียชีวิตอยู่ป่าหลังโรงเรียนอย่างปริศนา

ที่เกิดเหตุเป็นป่าอยู่ฝั่งขวาของทางเข้าโรงเรียน เพิ่งเป็นป่าพฤกษศาสตร์ของโรงเรียน อยู่บริเวณด้านหลังป้อมรักษาความปลอดภัย ด้านหลังของห้องฝ่ายปกครอง ป่าดังกล่าวจะมีลักษณะค่อนข้างรก มีลักษณะเป็นทางเดินซึ่งเป็นเนินดินเข้าไปบริเวณตรงกลางสวน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ทีมข่าวได้ย้อนกลับไปที่บริเวณหน้าโรงเรียนที่เกิดเหตุ มีกล้องวงจรปิดของบ้านฝั่งตรงข้ามโรงเรียน จับภาพกลุ่มของผู้เสียชีวิต ในวันเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 15.24 น. กลุ่มน้องฟิล์ม ซึ่งเดินออกจากโรงเรียนเพื่อข้ามถนนมาซื้อขนมและผัดไทย เป็นร้านฝั่งตรงข้ามโรงเรียน เห็นกลุ่มน้องฟิล์มใส่ชุดพละเดินออกมาข้ามถนนเป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 7 คน

เวลาประมาณ 15.31 น. จับภาพของกลุ่มน้องฟิล์มเดินกลับ ข้ามถนนกลับไป 7 คน มีเพียง 5 คนที่เดินตามหลัง ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ นั่งกินผัดไทยอยู่บริเวณริมฟุตพาทหน้าประตูโรงเรียน ก่อนที่ครูฝ่ายปกครองจะมาเจอ และวิ่งหนีแตกก็เจิง

นางสาวจูน (นามสมมติ) เพื่อนในกลุ่มของผู้เสียชีวิตที่วิ่งหนีครูฝ่ายปกครองด้วย เผยว่า ในวันเกิดเหตุกลุ่มของตนเองเลิกเรียนวิชาสุดท้าย จากนั้นช่วงพักก่อนที่จะเข้าสู่กิจกรรมสวดมนต์ เดินเกาะกลุ่มกันไปซื้อของกินที่หน้าโรงเรียน ส่วนตัวของฟิล์ม ได้ไปซื้อผัดไทยเพื่อมานั่งกินระหว่างรอรถโรงเรียนมารับ

ตอนที่เดินไปซื้อผัดไทยไปด้วยกัน 7 คน แต่มี 5 คนได้มีการตกลงร่วมกันว่าจะไม่เข้ากิจกรรมสวดมนต์ เพราะเลิกช้า และไม่สนุก ประกอบกับตนเองเป็นคนที่ไม่ชอบกิจกรรมสวดมนต์อยู่แล้ว มักจะมีการโดดกิจกรรมดังกล่าวเป็นประจำ จึงได้มีการชักชวนเพื่อนเพื่อให้นั่งรออยู่หน้าโรงเรียน จนกระทั่งรอเลิกและกลับมา

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ปรากฏว่าช่วงที่กลุ่มของตนเอง 5 คน มีผู้หญิง 4 คนรวมผู้เสียชีวิต และเพื่อนผู้ชาย 1 คน นั่งอยู่ที่ฟุตพาทฝั่งตรงข้ามป้อมรักษาความปลอดภัยหน้าโรงเรียน มีครูฝ่ายปกครองเดินมาลักษณะถ่ายคลิปและถ่ายภาพนิ่ง ทำนองว่าจะเอาไปเป็นหลักฐานในการเอาผิดเพราะโดดกิจกรรม ด้วยสัญชาตญาณเห็นว่าครูกำลังถ่ายภาพ จึงได้มีการวิ่งหนีแต่ก็เจิง

โดย 3 คน คือ ตนเอง ผู้เสียชีวิต และเพื่อนผู้ชายอีกคน วิ่งเข้าไปที่ป่าหลังป้อมยาม ตนเองวิ่งไปฝั่งซ้ายตามทาง จนกระทั่งไปสิ้นสุดที่รั้วของการประปา ส่วนเพื่อนผู้ชายคาดว่าวิ่งตรงเข้าไป ส่วนผู้เสียชีวิตวิ่งเลี้ยวขวาเลาะไปกับกำแพง ประมาณเกือบ 200 เมตร คือจุดที่ครูฝ่ายปกครองไปเจอฟิล์มนอนหมดสติ

ส่วนเพื่อนอีก 2 คน วิ่งออกไปที่หน้าประตูโรงเรียน ตอนนั้นต่างคนต่างวิ่งก็เลยไม่รู้ว่าใครอยู่ไหนบ้าง จนกระทั่งตนเองวิ่งไปพักเหนื่อยประมาณ 5 นาที และมีเพื่อนส่งข้อความมาบอก และถามว่า อยู่ไหนกัน ออกมาได้แล้ว ครูไปแล้ว ตนเองจึงเดินออกมาจากป่า แต่ตอนนั้นไม่เจอเพื่อนผู้ชายและฟิล์ม จึงเข้าใจว่าต่างคนต่างกลับบ้านแล้ว ไม่ได้คาดคิดว่าฟิล์มนอนหมดสติอยู่ในป่า จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านเพื่อนส่งข้อความมาบอกว่าฟิล์มช็อกนอนอยู่โรงพยาบาล ซึ่งตนเองก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าเจ้าตัวจะวิ่งแล้วไปหมดสติอยู่ในป่านั้น

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวและกลุ่มเพื่อนที่วิ่งหนีครูฝ่ายปกครอง ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด ที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรมและยังวิ่งหนีครู ส่วนครูที่วิ่งไล่นักเรียนนั้น ตนเองก็บอกว่าเป็นการทำหน้าที่ของครูที่ต้องดูแลเด็กให้อยู่ในกรอบในระเบียบอยู่แล้ว ฉะนั้นครูก็ต้องทำหน้าที่ของครู แต่ในการกระทำของกลุ่มของตนเองมากกว่าที่เป็นคนผิด ขณะที่พฤติกรรมและโรคประจำตัวของผู้เสียชีวิต

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ตนเองก็เห็นว่าตัวของฟิล์มเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้มีปัญหาทางสุขภาพ เมื่อวานนี้ตอนไปร่วมงานทราบจากพ่อของฟิล์มว่าฟิล์มมีลักษณะอาการเหนื่อยและหอบง่าย จึงไม่แน่ใจว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้วิ่งแล้วเกิดอาการช็อกหรือไม่ ประกอบกับวันดังกล่าวฟิล์มเพิ่งจากกินผัดไทยได้แค่เพียงครึ่งห่อ เชื่อว่าอาจเป็นเพราะยังไม่ได้กินน้ำ ทำให้เกิดการติดคอหรือไม่

มีแชทซึ่งเป็นข้อความที่คุยกันกับเพื่อน เพื่อนที่วิ่งหนีไปบริเวณหน้าโรงเรียนได้มีการส่งข้อความมาหาน้องจูน ทำนองว่า มึงอยู่ไหนกัน และน้องจูนก็ได้มีการบ่นกับเพื่อนทำนองว่าวิ่งหนีไม่คิดชีวิต และมีการส่งภาพต้นไม้ในป่าไปให้กับเพื่อน จากนั้นเพื่อนก็ตามให้ออกมาเพราะครูไปแล้ว

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ