ดราม่า มาดามแพม หลังไม่เห็น น้ำตาล ชลิตา ยกมือไหว้

ดราม่า มาดามแพม หลังไม่เห็น น้ำตาล ชลิตา ยกมือไหว้

คลิป

หลังเป็นดราม่าร้อนระอุในตอนนี้ ระหว่าง บิวตี้บล็อคเกอร์ชื่อดังที่ยอดผู้ติดตามกว่าล้านคน และ น้ำตาล ชลิตา มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2559 กำลังเป็นที่จับตามอง

โดยเรื่องราวทั้งหมดสืบเนื่องมากจากมาดามแพม ได้ตั้งสเตตัสในเฟซบุ๊กว่า วันนี้มาออกทีวี เจอนางงาม Top 6 ระดับโลกเขารู้จัก ทำเป็นไม่รู้จัก ชีวิตมาดามแพมน่าสงสาร

ทำให้หลายคนพุ่งเป้าไปที่น้ำตาล แต่ในขณะเดียวกันก็มี ทีมงานมาเป็นพยานให้น้ำตาล และยืนยันว่า เห็นน้ำตาลไหว้ทักทายมาดามแพมแล้ว แต่มีสายเข้าพอดีน้ำตาลจึงต้องรับสาย คาดว่ามาดามแพมอาจไม่ทันเห็น

จากนั้นมาดามแพมก็ออกมาไลฟ์บนเฟซบุ๊กในเชิงตัดพ้อ ประมาณว่า ตนรักและซัพพอร์ตน้องน้ำตาลมาตลอล เวลาเจอกันตนจะเป็นฝ่ายวิ่งไปหาน้ำตาลก่อนเสมอ น้องไม่เคยวิ่งมาหาต้น และวันนั้นตนไปออกงานและได้เจอกับน้ำตาล ตนชอบน้ำตาลมาก ในห้องนั้นมีคน 4-5 คน ตอนแรกมีคนมาถ่ายรูปกับตน ตนก็ถ่ายรูปไป

แต่พอถ่ายรูปเสร็จตนวิ่งไปหาน้ำตาล แต่น้ำตาลทำเป็นเมินไม่คุยด้วย ทำให้รู้สึกเหมือนตนหน้าแตก เพราะเขาไม่อยากคุยด้วย ที่มีคนบอกว่าน้องไหว้แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ไหว้ แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญอะไรแค่อยากเห็นน้องยิ้มให้สักหน่อยแค่นั้น พอกลับมาขึ้นรถก็ร้องไห้ด้วยความน้อยใจ รู้สึกเหมือนคนอกหักโดนผัวทิ้ง เพราะตนชอบน้ำตาลมาก ตนเข้าใจว่าน้ำตาลงานค่อนข้างยุ่ง แต่ตนไม่ได้มีชื่อเสียงและไม่ได้ต้องการหาแสง

เจอแบบนี้ก็เสียใจ ตนไม่ได้ทำตัวเป็นศูนย์กลาง ตนไม่ได้โกรธหรือเกลียด ไม่ได้ตำหนิ ในวงการนางงาม ตนผิดเองที่วิ่งไปหาเขาแล้วเขาไม่สนใจ ที่โพสต์เพราะน้อยใจ ไม่ได้ต้องการให้น้องเสียหาย ขอให้สนับสนุนน้องกันต่อไป อย่าไปทำร้ายน้อง ตนไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดน้อง ขนาดคุณวิชญ์ สามีของแพมยังคิดว่า แพมไปทำอะไรให้น้ำตาลโกรธหรือเปล่

และระหว่างที่มาดามแพมไลฟ์อยู่ สาวน้ำตาลก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ตอบรัวๆ ในไลฟ์ ประมาณว่า น้ำตาลอยากทราบว่าไม่ได้ไหว้ตอนไหน น้ำตาลได้ไหว้และ แต่โทรศัพท์เข้าพอดี ทางทีมงานน้ำตาลก็พยายามโทรไปหาแล้ว แต่มาดามไม่รับสาย ขออย่าใส่ไฟ มีอะไรคุยกับน้ำตาลได้เลย อย่างไรก็ตาม มีช่วงหนึ่งที่น้ำตาลขอที่อยู่เพื่อที่จะไปเคลียร์กับมาดามแพมถึงบ้าน และบอกว่าตอนนี้มาดามแพมกำลังทำลายชื่อเสียงของน้ำตาล มาดามบอกคนอื่นอย่าทำร้ายน้ำตาล แต่เป็นมาดามต่างหากที่ทำร้ายน้ำตาล อย่าหาดราม่ามาให้น้ำตาลเลย

และแม้ว่าน้ำตาลจะไปคอมเมนต์ในไลฟ์ของมาดามแพมโดยตรง แต่ปรากฏว่ามาดามแพมไม่ได้อ่านคอมเมนต์น้ำตาลแต่อย่างใด จากนั้น น้ำตาลได้ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า

ตนไม่แน่ใจจุดประสงค์ในการโพสต์ครั้งนี้ของมาดามแพม แต่มันทำให้คนอื่นมองน้ำตาลไม่ดี ถ้าน้ำตาลมีปัญหาเรื่องการไหว้คงอยู่ในวงการไม่ได้ ทางบ้านก็สอนเรื่องมารยาท ทีมงานก็เห็น ผู้จัดการก็เห็น แต่ตอนนั้นมีโทรศัพท์ผู้ใหญ่เข้ามาก็ต้องคุยยาว กลับมาก็ไม่เห็นมาดามแพมแล้ว จากนั้นน้ำตาลก็ไปถ่ายรายการต่อ ถ่ายรายการเสร็จก็เห็นดราม่า ทีมงานก็โทร หามาดามแพม แต่มาดามแพมไม่คุย มาดามแพมย้ำเสมอว่าเข้าหาน้ำตาลด้วยความรัก แต่คนรักกันไม่ทำกันแบบนี้ เราก็ไม่ได้สนิทอะไรกัน ครั้งหน้าก่อนโพสต์ก็ขอความจริงด้วย

และทางมาดามแพมกับสามีก็ได้ออกมาโพสต์ขอโทษ โดยทางฝั่งมาดามแพมก็ได้โพสต์ข้อความ โดยบอกว่ามาทบทวนดูแล้วพบว่าเราทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากเกินไป ไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อนโพสต์ จนทำให้น้ำตาลเสียหาย ต่อไปจะปรับปรุงพฤติกรรมให้ดีขึ้น และขอบคุณทุกคอมเมนต์ด้วยที่ช่วยเตือนสติ

และทางฝั่งคุณวิชญ์ สามีของมาดามแพมก็บอกว่า ปกติมาดามแพมเป็นคนอ่อนไหว ปากร้ายแต่ใจดี แต่ตั้งแต่ที่มาดามแพมเป็นบุคคลสาธารณะ ก็มักจะสะสมความเครียดเอาไว้ มาดามแพมคิดเสมอว่า ไม่อยากทำให้คนอื่นผิดหวัง ทุกอย่างที่ทำเลยทำแบบเต็มที่ และคาดหวังสูงเสมอ

จนกระทั่งเป็นความกดดัน ตัดพ้อ อารมณ์แปรปรวน หลายครั้งก็ทำร้ายตัวเอง และไม่อยากอยู่บนโลกนี้ ภรรยาของตนพยายามบำบัดด้วยตัวเอง พยายามปรับเปลี่ยนฝืนอารมณ์ตนให้ดีเสมอจนกลายเป็นเหมือนคนที่แบกระเบิดเวลาไปตลอดเวลา

เมื่อมีอะไรมากระทบเพียงเล็กน้อย ก็พร้อมจะโครมครามใส่ทุกอย่าง จนต้องพากันไปหาจิตแพทย์ และก็รู้ว่าภรรยาตนเป็นโรคซึมเศร้า เวลาภรรยาเศร้าตนก็เศร้าไปด้วย ตอนแรกภรรยาไม่ยอมแต่พอได้อ่านคอมเม้นท์จากทุกๆคน ไม่ว่าเป็นคอมเม้นท์ด้านบวก ลบ และตักเตือนตรงๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่ภรรยาตนยอมรับว่าผิด และตัดสินใจว่า ในวันพรุ่งนี้ หรือมะรืน หรืออีก 3 - 4 วัน ภรรยาตนได้ ตัดสินใจจะไปหาจิตแพทย์เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเพื่อไม่ให้แพมใช้อารมณ์และสื่อไปพาดพิงผู้อื่น ขอให้ทุกคนให้อภัย ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ ตักเตือน ให้สติ และขอโทษทุกท่านที่ทำให้เดือดร้อนจริงๆ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ