สาว เงินเดือน 66,000 แต่ผ่อนรถไม่ไหว
ยุคนี้หลายคนเวลาซื้อบ้าน อาจจะต้องการพื้นที่ที่ใหญ่ บ้านตามชานเมืองจึงน่าจะตอบโจทย์กว่าบ้านทั่วไป แต่กลายเป็นว่าเมื่อซื้อบ้านแล้ว ก็ต้องซื้อรถไปอีก ทำให้กลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ต้องใช้เวลาในการผ่อนทั้งชีวิต จนเงินอาจจะตึง ขาดมือไปเลย ล่าสุด สาวคนหนึ่งได้ออกมาเผยเรื่องราวคาใจ ผ่านกระทู้พันทิป เมื่อเธอมีเงินเดือนสูงมาก แต่ค่าใช้จ่ายก็มาก และทำให้ไม่มีเงินเหลือไปผ่อนรถ ทั้งที่บ้านก็อยู่ไกล ไม่รู้จะทำยังไงดี สาวคนนี้บอกว่า เธอมีเงินเดือน 66,000 บาท แต่เมื่อหักกองทุนและภาษี จะเหลือเงินแค่ 60,000 บาท
ล่าสุดไปซื้อบ้านย่านชานเมืองราคา 4 ล้านบาท แต่เธอไม่มีรถยนต์ส่วนตัว มีแต่รถมอเตอร์ไซค์ไปทำงาน ทุกวันนี้ใช้การขี่มอเตอร์ไซค์ไปจอดที่รถไฟฟ้าแล้วนั่งรถไฟฟ้าไปทำงาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบ้านของเธออยู่ไกล ทำให้การขี่แต่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานเป็นเรื่องลำบาก และอยากได้รถยนต์มาใช้สักคัน ซึ่งแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายดังนี้
รายรับที่ 66,000 บาท แต่หักภาษีและกองทุนต่าง ๆ เหลือ 60,000 บาท
ค่าผ่อนบ้าน 20,000 บาท บ้านราคา 4 ล้านกว่าบาท
ให้พ่อแม่ 9,000 บาท
ค่าประกัน 3,000 บาท
ผ่อนของ 0% ซึ่งใช้สำหรับซื้อของตอนซื้อบ้านใหม่ 7,000 บาท
ค่าน้ำ-ไฟ 4,000 บาท
ค่าเดินทาง 3,000 บาท
เหลือเงินใช้ส่วนตัว 14,000 บาท ซึ่งเธอใช้หมดด้วยและเหลือไม่กี่พัน
ทั้งนี้ เมื่อลองมาคำนวณดูจะเห็นว่า แม้เงินเดือนจะสูงแต่แทบขยับไม่ได้เลย เพราะหากซื้อรถก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมา ไป-กลับ 80 กม. ค่าน้ำมันราว 4,000 บาท ค่าจอดรถอีก 1,000 บาท ยังไม่นับรวมประกันรถ ค่าบำรุงรักษา และอื่น ๆ และต่อให้ของที่ผ่อน 0% หมดก็ยังไม่พอค่าใช้จ่ายถ้าหากผ่อนรถจริง ๆ รถที่เล็งเอาไว้เป็นรถเก๋งธรรมดา คิดว่าจะผ่อนไม่เกินเดือนละ 10,000 เรื่องนี้เธอยอมรับว่าคิดไม่ตก จะฝืนใช้ชีวิตแบบประหยัดค่ากินใช้แล้วเอามาผ่อนรถดีไหม แต่เธอก็กลัวขาดสภาพคล่องเหมือนกัน ถ้าได้รถมาเวลาไปทำงานน่าจะสบายกว่าเดิม ตอนนี้ขึ้นรถไฟฟ้าหลายต่อ
เรื่องนี้ทำให้หลายคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า เธออาจจะผิดที่เลือกบ้านราคาแพงตรงชานเมืองแล้ว และต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อรถอีก การซื้อรถนอกเหนือจากค่าผ่อนและค่าน้ำมัน ยังมีรายจ่ายยิบย่อยทั้งค่าบำรุงรักษา ภาษีรายปี ประกัน จากที่เงินตึงอยู่แล้วอาจจะตึงกว่าเดิม ทางออกตอนนี้คือถ้าอยากได้รถยนต์ อาจต้องเปลี่ยนไปซื้อมือสอง แต่การซื้อรถมือสองก็ต้องดูรถให้เป็น เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะซ่อมไม่รู้จบ ในขณะที่บางคนบอกว่า เธอไม่ควรผ่อนรถตอนนี้เลยเพราะเสี่ยงเกินไป แค่ซื้อบ้าน 4 ล้านไกลเมืองก็เสี่ยงไปแล้ว และบ้านเป็นภาระที่ต้องผ่อนยาวนาน หากพลาดมาจะกดดันตัวเองและจะเสียทั้งบ้านทั้งรถ ถ้าผ่อนรถก็ต้องมีเงินดาวน์อีก ดาวน์เยอะผ่อนน้อย ดาวน์น้อยดอกเบี้ยเยอะ เงินสำรองก็ต้องมี
ในขณะที่บางคนก็บอกว่า เงินเดือนของเธอสูงมาก แต่ค่าใช้จ่ายก็เยอะมากเช่นกัน หากอยากได้รถจริง ๆ ต้องลดค่าใช้จ่ายรายเดือนเดือนละ 14,000 บาท เหลือ 8,000 บาท และค่าผ่อนของเดือนละ 7,000 บาท ต้องผ่อนให้หมดก่อนแล้วลองใช้เงินจำนวน 15,000 บาท เก็บเข้าธนาคารให้ได้สัก 6 เดือน เพื่อผ่อนทิพย์ ถ้าทำได้ก็อาจจะออกรถได้ ถ้าทำไม่ได้จะได้รู้ว่าถ้าเจอสถานการณ์จริงจะสาหัสขนาดไหน และจะรับมือได้ถูก ยอมรับ ตอนนี้ต้องใช้มอเตอร์ไซค์ไปก่อน แค่เบื่อเวลาฝนตก ต่อมา เธอได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ค่าผ่อนบ้านนั้นคือค่าโปะรายเดือนในยอดที่ไหว จริง ๆ ธนาคารให้ผ่อนประมาณหมื่นต้น ๆ เท่านั้น
และที่ซื้อบ้านไกลเพราะอยากให้พ่อแม่มีพื้นที่ บ้านตั้งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า 5 กม. หาราคาต่ำกว่านี้ไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปก่อน รอการเงินดีขึ้นแล้วคิดใหม่ ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วเบื่อฝนตก นั่งรถไฟฟ้าไปทำงานก็นาน จากบ้านไปทำงานใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง 45 นาที
ขอบคุณ กระปุกดอทคอม