วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ในเพจบ้านดุงอัพเดท โดยนายวีระพล รักเสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุงและแอดมินเพจ เดินทางไปที่จ.นครราชสีมา เพื่อเดินทางไปส่งแฟนเพจขอความช่วยเหลือไปส่งที่อ.บัวลาย จากนั้นได้มีชาวบ้านทักขอความช่วยเหลือขนของออกจากบ้าน เพราะบ้านจะถูกยึด เพราะค้างจ่ายติดต่อมาหลายเดือนจนมีหมายศาลมาติดไว้หน้าบ้าน

ต่อมาวันนี้นายวีระพล เดินทางไปที่บ้านเอื้ออาทรสูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พบกับเจ้าของบ้านคือนายปอ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปีชาวบ้านกดดู่ ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และเป็นคนเดินกะเผกขาขวา นายปอ บอกว่า ผมขอความช่วยเหลือจากเพจฯ เพื่อขนของภายในบ้าน ทั้งตู้เสื้อผ้า สิ่งของภายในบ้านอีกหลายอย่าง เพื่อขนไปกลับบ้านภรรยาที่อ.บ้านดุง เพื่อจะไปตั้งหลักฮึดสู้อีกครั้ง หลังจากบ้านจะถูกยึด และขอขอบคุณน้ำใจคนไทยด้วยกันที่ไม่ทิ้งกัน

นายปอ เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้เก็บเงินมาทั้งชีวิตซื้อบ้านเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนเป็นบ้านเอื้ออาทร ดีใจมากทั้งชีวิตจะมีบ้านสักหลัง ผ่อนเดือนละ 5,000 บาท โดยตนเองทำงานโรงงานและหารายได้พิเศษขายดอกไม้สดด้วย แต่เจอวิกฤต cv เมื่อ 2 ปีก่อนทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง ทั้งบ้านและรถยนต์ถูกธนาคารและไฟแนนซ์ทวงถามมาตลอด สุดท้ายส่งต่อไปไม่ไหวเขาจึงติดตามยึด

ล่าสุดมีเอกสารทางศาลฯ มาติดหน้าบ้าน ทำให้รู้ว่าบ้านถูกยึดแน่แล้ว จึงต้องปล่อยวาง จากนี้ก็จะลาออกจากพนักงานโรงงานเพื่อกลับไปอยู่บ้านกับลูกและภรรยา ที่ผ่านมาทุกอย่างเหมือนทางตันหาเงินไม่ทัน วันนี้บ้านจะถูกยึดแล้วคงไม่มีที่อยู่ จึงขอความช่วยเหลือ เพราะไม่มีเงินเหมารถขนของกลับบ้านเขาจะเอา 8,000 บาทแต่ตนเองหยิบยืมมาได้ 3,000 บาทเท่านั้นเอง ขณะที่นายวีระพล บอกว่า เข้าใจความรู้สึกควาทลำบามาช่วยด้วยใจเก็บเงิน 3,000 บาทเอาไว้ลูกและภรรยาไปตั้งหลักที่บ้าน

ผมพร้อมภรรยาทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิตซื้อบ้านหลังนี้ ดีใจที่มีบ้านเป็นของตนเอง แต่ไม่คิดว่าวิกฤติโควิดจะหนักถึงเพียงนี้ แต่ก็ยังดีมีภรรยาและลูกน้อยอีก 2 คนให้กำลังใจตลอด แม้บ้านและรถยนต์ผมจะถูกยึดแต่ผมจะไม่ท้อ ผมจะเดินทางกลับบ้านที่จ.อุดรธานี ฮึดสู้ไปค้าขายอีกครั้ง นายปอพูดไปน้ำตาคลอไป

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี