สุดทน ประกาศขายบ้าน หนีเพื่อนบ้าน
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Survive สายไหมต้องรอด โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์เพื่อนบ้าน 2 หลัง ในพื้นที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ถึงขั้นลงไม้ลงมือ พร้อมข้อความว่า คุณพ่อหนู แกทำงานทุกวันค่ะ ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 กลับบ้าน 5 โมงเย็น พอ 1 ทุ่ม แกก็นอนแล้วค่ะ ตั้งแต่มีปัญหา เพื่อนบ้านก็ทำแต่งรถจนถึงตี 1 ตี 2 เสียงดังมากทุกวัน พ่อนอนไม่ได้เลยค่ะ ก่อนหน้านี้พ่อเคยไปร้องเรียนนิติของหมู่บ้าน แจ้งความที่ สน. จนท.มาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน
จนกระทั่งเมื่อวานนี้พ่อคงทนไม่ไหว ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านทำรถแต่งเคาะเสียงดัง จึงเดินออกมาถ่ายคลิปเพื่อไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับต่อว่าเพื่อนบ้าน สุดท้ายถูกเพื่อนบ้านออกมารุม หนูกลัวว่าเค้าจะกลับมาทำพ่อหนูจนถึงชีวิตพ่อหนูอยู่บ้านคนเดียวค่ะ ตอนนี้หนูเลยพาพ่อหนีออกมาอยู่บ้านญาติก่อน และติดป้ายขายบ้านแล้วค่ะ
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวไปพบกับ นายชัย (นามสมมติ) ชายในคลิปที่ ขณะหนีมาพักอาศัยอยู่กับญาติใน จ.ราชบุรี ก่อนเปิดเผยเรื่องราวว่า ตนอาศัยในบ้านที่เกิดเหตุที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม มากว่า 5 ปี หลังลูกสาวตั้งใจเก็บเงินซื้อ หวังให้ตนใช้ชีวิตยามเกษียณ แต่ละวันตนจะอยู่ที่บ้านพักผ่อนนอนหลับ ตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงเช้ามืด ก่อนจะออกไปทำงาน และหยุดอยู่บ้านแค่วันอาทิตย์ ในด้านความสัมพันธ์ของตนและเพื่อนบ้านโดยรอบ ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี ให้ความช่วยเหลือกันมาตลอด
กระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน นายเอ (นามสมมติ) เพื่อนบ้านที่เป็นคู่กรณี ซื้อรถยนต์เก่ามา 1 คัน ต้องซ่อมและมีเสียงดังอยู่บ่อยครั้ง ทั้งช่วงกลางวัน-กลางคืน ไม่เว้นแม้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตนจึงเข้าไปพูดคุยขอร้อง เนื่องจากต้องการพักผ่อน ช่วงแรกนายเอได้รับปากจะปรับเปลี่ยน แต่เพียงไม่นานทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเช่นเคย
และหลังจากที่คุยกับเพื่อนบ้านหลายหลังในละแวกนั้น ต่างประสบปัญหาเรื่องเสียงดังเช่นกัน แต่ก็อดทนเพราะไม่อยากจะมีเรื่องกัน ส่วนตนพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ด้วยการไปแจ้งนิติบุคคลหมู่บ้าน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เข้ามาไกล่เกลี่ย แต่ไม่เป็นผล กระทั่งเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตัดสินใจย้ายหนีออกไปอาศัยอยู่ที่ทำงาน เนื่องจากสุขภาพ และสภาพจิตใจย่ำแย่ โดยจะกลับมาดูบ้านเป็นครั้งคราว ต่อมาได้รับคำแนะนำให้ถ่ายคลิปขณะที่เพื่อนบ้านกำลังทำเสียงดังรบกวน เพื่อนำไปเป็นหลักฐานร้องเรียน จนช่วงเย็นของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา นายเอได้ซ่อมรถเสียงดังเช่นเคย ตนจึงเดินออกไปหน้าบ้าน แล้วยืนถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่นานนายเอและน้องชายหันมาเห็นจึงเกิดปากเสียงกันขึ้น ก่อนที่นายเอ จะเดินปรี่เข้ามาทำร้ายตนจนได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า มือ แขน และใบหน้า
โดยมีน้องชายตะโกนส่งเสียงยุ แล้วนำท่อแป๊บมาตี สุดท้ายตนรีบวิ่งหนีเข้าบ้าน หยิบมี-ดในครัวออกมาถือป้องกันตัว เรื่องราวจึงจบลง จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ตนต้องตัดใจประกาศขายบ้านที่ลูกสาวซื้อให้ แม้จะเสียดาย แต่ก็ยอมรับว่ากังวลถึงความปลอดภัยของชีวิต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมดำเนินคดีกับนายเอและน้องชายต่อไป