พอล ภัทรพล เปิดใจเหตุลาวงการ จากดาราสู่นักธุรกิจกว่าจะมีพันล้าน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ในอดีตนั้นได้อยู่ในวงการมาอย่างยาวนานและได้ห่างจากวงการบันเทิงไปนานหลายปีซึ่ง จากอดีตพระเอกที่โด่งดังไม่น้อย ผันตัวไปทำธุรกิจแบบเต็มตัว จนปัจจุบันประสบความสำเร็จเป็นนักธุรกิจพันล้าน หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ากว่าชีวิตของ พอล ภัทรพล จะมาถึงจุดนี้
ต้องเจออุปสรรคมาไม่น้อย เคยเจ๊งไปหลายธุรกิจ เคยโดนโกงอีกด้วย โดยล่าสุด 6 กรกฎาคม 2565 เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา ดำเนินรายการ ไม่ออกทีวีนานเท่าไหร่แล้ว
พอล ล่าสุดครั้งแต่งงาน น่าจะ 4-5 ปีแล้ว ตอนนั้นกำลังรุ่งในวงการบันเทิง ทำไมถึงหยุด พอล เราไม่ได้ตั้งใจอยู่วงการบันเทิงตลอดชีวิตอยู่แล้ว เป้าหมายของผมตั้งแต่เด็กคืออยากเกษียณเร็ว วงการบันเทิงก็รายได้ดี แต่เข้าใจว่าถ้าอยากเกษียณเร็วต้องเก็บเงินได้มากกว่านั้น คิดไว้ 2 อย่าง ธุรกิจส่วนตัวกับลงทุน
นั่นเป็นที่มาเราเลยทำธุรกิจส่วนตัวคู่กันมาตลอด พอธุรกิจเริ่มใหญ่ขึ้นมันเริ่มใช้เวลาเรามากขึ้น คงต้องเอาเวลาไปทุ่มธุรกิจเต็มตัวแล้ว เราคิดดีแล้วว่าอันนั้นมันใช้เวลาแต่คุ้ม แต่ก็ไม่ค่อยปลอดภัย กังวลเหมือนกัน แต่ถ้าเราไม่ทุ่มเทเต็มที่มันไม่มีทางจะเกิดได้ กลัวมั้ยว่าออกไปแล้วไม่สำเร็จ พอล สารภาพว่ามีบ้าง
มันเป็นตัวขับเคลื่อนเราต้องทำให้สำเร็จกว่าเดิม ออกจากวงการบันเทิงไป 10 กว่าปีแล้ว จับธุรกิจอะไรบ้าง พอล จริง ๆ ก็หลายอย่างครับ เจ๊งก็เยอะ ที่อยู่ได้เป็นธุรกิจอาหารเสริม หลายพันล้าน พอล ประมาณซักพันครับ อยู่บ้านเฉย ๆ เงินไหลเข้าบัญชีทุกวัน พอล ก็พอได้ มันมาจากเราทุ่มเท
เรามีจำหน่ายทั่วโลกเวลามันต่างกัน มันเกิดการซื้อขายตลอดเวลา มาทำยูทูบ พอล มันเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่เราอยากทำมานานแล้ว ที่เราอยากเกษียณเร็ว เราอยากทำอะไรบางอย่างให้กับสังคม ปัญหาเรื่องความรู้ด้านการเงินของประเทศไทยผมว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก ตอนเด็กเรามีปัญหาด้านการเงินเหมือนกันเลยรู้สึกว่า
ถ้ามีคนมาบอกเราเหมือนเป็นทางลัดมันจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคน ธุรกิจอะไรที่เจ๊ง พอล รายการทีวี อีเวนต์ออกแกไนเซอร์ คลีนิค ฟิตเนส สปา อีกเยอะเลย ล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ อยากจะบอกว่าคุณไม่ต้องสำเร็จทุกครั้ง บางทีสำเร็จแค่ครั้งเดียวก็ชดเชยความล้มเหลวเป็นสิบเป็นร้อยครั้งของคุณได้
รวม ๆ สักประมาณ 8 หลัก เราจะเก่งขึ้นตอนเราพลาดตอนเราล้ม โดนโกงด้วย พอล มีครับ เราไปเป็นหุ้นส่วนเปิดคลีนิคกับฟิตเนส เราก็ฟ้องพาร์ตเนอร์ ตอนนั้นเครียดเราไม่เคยขึ้นศาล แต่ถือเป็นข้อดีถือว่าเรียนกฎหมายเพิ่ม ไม่โกรธนะ ขณะที่มีคดีกันเรายังส่งลูกค้าให้เค้า เค้าเป็นคนเก่ง แต่บางเรื่องเค้าทำไม่ถูก ตอนเด็ก ๆ
มีปัญหาเรื่องเงิน พอล ตอนนั้นปี 40 ต้มยำกุ้ง ผมว่าทุกคนลำบาก ที่บ้านมีหนี้จำนวนมาก ทรัพย์สินไปติดที่ธนาคาร เรารู้สึกว่าถ้าเรามีตังค์จะช่วยพ่อแม่ได้ มันเหมือนเป็นปมอย่างนึง เราโชคดีเริ่มทำงานหาเงินตั้งแต่มหาลัย ได้รายได้ก็ผ่อนแบ้งจ่ายหนี้ทำอยู่หลายปี ทุกอย่างประหยัดได้ประหยัดหมด ตอนนี้ชีวิตนิ่งด้วยความสุขหรือยัง พอล ถือว่าแฮปปี้นะ
เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews