เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (18มิ.ย.65) เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัทผสมสีแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในซอยวงศ์แพทย์ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเข้าระงับเหตุในจุดเกิดเหตุภายในตัวอาคารแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

เมื่อเกิดการระเบิดซ้ำสองจนไฟลุกท่วมใส่ตัวเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในขณะนั้นจนต้องพากันพยุงตัวออกจากที่เกิดเหตุเพื่อปฐมพยาบาล พบว่ามีนักดับเพลิงบาดเจ็บ 2 นาย และมีพนักงานได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงและหน่วยบรรเทาสาธารณภัยกว่า 10 แห่ง เข้าระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเป็นอาคารพานิชย์ในลักษณะทาว์โฮมดัดแปลงใช้ประกอบกิจการโรงงานผสมสีทำให้ภายในโรงงานดังกล่าวมีถังสีและถังเคมีจำพวกทินเนอร์จำนวนมากจึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีในขณะเกิดเหตุ

นายเดชา เพ็ชรไทย หัวหน้าชุดปฎิบัติการเผจญเพลิงของหน่วยบรรเทาสาธารณภัยบางพลีเล่าวินาทีที่เกิดการระเบิดรอบสองจนทำให้ทีมดับเพลิงได้รับบาดเจ็บ โดยขณะเกิดเหตุตนเองและทีมงานกำลังเข้าสกัดเพลิงที่ชั้นสองของตัวอาคาร จังหวะนั้นมีน้องดับเพลิงอีกทีมประกบหลังฉีดน้ำตามเข้ามาเพื่อหวังดับเพลิงซึ่งในขณะนั้นแสงเพลิงเริ่มหมดไป แต่จังหวะที่กำลังเข้าควบคุมสถานการณ์เปลวเพลิงจากด้านหลังได้ย้อนเข้าตัวอาคารทำให้เกิดการระเบิดซ้ำสองอีกครั้ง ตนเองมองลงไปเห็นแต่แสงเพลิงและทีมดับเพลิงกำลังช่วยกันฉีดน้ำจนทราบภายหลังว่ามีนักดับเพลิงบาดเจ็บสองนาย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็น ส.ท.ของเทศบาลบางพลีซึ่งเป็นอาสาสมัครบรรเทาสาธารณะภัยบางพลีด้วยเช่นกัน เคราะห์ดีที่ได้ชุดป้องกันไฟในขณะนั้นจึงทำให้ความรุนแรงของแรงระเบิดได้เป็นอย่างดี

ด้าน พ.ต.ต.สิทธิพงศ์ ปานไทสง สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี เจ้าของคดีเปิดเผยเบื้องต้นว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าขณะเกิดเหตุมีพนักงานจำนวนหนึ่งกำลังทำงานตามปกติ อยู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหนึ่งครั้งที่ชั้นสองของตัวอาคารจากนั้นก็เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาระงับเหตุ เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ไ หลังความร้อนในตัวอาคารหมดไปก็จะประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบและจะเชิญทางด้านเจ้าของโรงงานและผู้เกี่ยวข้องเข้าสอบปากเพิ่มเติมอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทแห่งนี้เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายปี 2561 ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่สามารถระงับเหตุได้ทันและไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้