แม่ค้าขายทุเรียนไปไหว้ศาลเจ้าพ่อ ขากลับลืมกระเป๋าเงินไว้ 5 หมื่นกว่า โชคดีพลเมืองดีเก็บไว้ให้

แม่ค้าขายทุเรียนไปไหว้ศาลเจ้าพ่อ ขากลับลืมกระเป๋าเงินไว้ 5 หมื่นกว่า โชคดีพลเมืองดีเก็บไว้ให้

วันที่ 6 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีพลเมืองดีเก็บกระเป๋าเงินของผู้ที่มากราบไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อผาแดง ที่ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ริมถนนสายหล่มสักชุมแพ ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พร้อมทั้งประกาศหาเจ้าของ กระทั่งเจ้าของกระเป๋าได้เดินทางมารับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 3 ต.ปากดุก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของพลเมืองดีที่เก็บได้

นางสุวิทย์ บุตรแก้ว อายุ 62 ปี เปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงสายๆ ของวันที่ 4 มิ.ย.2565 ตนและลูก ๆ หลาน ๆ ได้ขึ้นไปไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อผาแดง ที่อยู่บนเขาน้ำหนาว ซึ่งตนและครอบครัวให้ความนับถือเป็นอย่างมาก เมื่อไปถึงปรากฎว่ามีเพียงผู้ที่ดูแลศาลอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ตนจึงเดินไปที่รูปปั้นเจ้าพ่อผาแดงเพื่อจุดธูปเทียนสักการะ

แต่ระหว่างนั้นหลานชายที่ไปด้วยได้มองเห็นกระเป๋าแบบสะพายข้างสีน้ำตาลวางอยู่หน้ากระถางธูป ตนจึงหยิบมาดูพร้อมกับเรียกผู้ดูแลศาลมาร่วมตรวจสอบ เมื่อเปิดออกดูก็พบว่ามีเงิน ซึ่งเป็นทั้งธนบัตรใบละ 1 พันบาท 500 บาท 100 บาทและใบละ 20 บาท เมื่อนับดูก็พบว่ามีจำนวนจำนวน 5 หมื่นกว่าบาท พร้อมกันนี้ก็มีเอกสารต่าง ๆ เช่นบัตรประชาชน สมุดบัญชีธนาคาร จึงได้ให้ลูกสาวถ่ายรูปไว้ จากนั้นก็นำไปโพสต์ในเฟสบุคเพื่อตามหาเจ้าของ

เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็ได้มีรถคันหนึ่งแล่นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้มีผู้ชายและผู้หญิงออกมาจากรถและวิ่งขึ้นมาดูที่บริเวณกระถางธูปด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนก ตนจึงรูปได้ทันทีว่าเป็นเจ้าของ จึงได้พูดคุย สอบถามตรวจสอบกระทั่งมั่นใจว่าเป็นเจ้าของจริงจึงได้มอบคืนให้ไป

นางสุวิทย์ บุตรแก้ว เปิดเผยอีกว่าเมื่อตนเห็นกระเป๋าและเงินจำนวนมากจึงได้รีบให้ลูกสาวโพสต์ประกาศหาเจ้าของ เพราะเข้าใจว่าเจ้าของจะต้องเสียใจเป็นอย่างมาก และอาจจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของเขาก็ได้ ที่ผ่านมาตนก็เคยเก็บสิ่งของมีค่าหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นเงินสด กระเป๋าเงิน สร้อยคอทองคำ ซึ่งตนก็ได้ติดตามคืนเจ้าของได้ทุกครั้ง ตนสอนลูก ๆ อยู่เสมอว่าสิ่งของที่ไม่ใช่ของเรา ไม่ควรที่จะเอามาเป็นเจ้าของ เพราะอาจจะทำให้เขาเดือดร้อนได้ และก็รู้สึกดีใจที่เจ้าของได้กระเป๋ากลับคืนไป

ด้าน น.ส.มุกดา พานำมา อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายทุเรียน เจ้าของกระเป๋าใบดังกล่าวเปิดเผยว่าในวันดังกล่าวตนและญาติ ๆ ได้ขับรถไปถวายหัวหมูที่อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จากนั้นก็พากันขับรถขึ้นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อผาแดงที่อยู่ริมถนนสายหล่มสัก ชุมแพ ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เมื่อไปถึงก็ได้กราบไหว้สักการบูชา จึงหวะนั้นหลานจะให้อุ้ม ตนจึงเอากระเป๋าที่วางไว้ตรงกระถางธูป เมื่อทุกคนไหว้เสร็จแล้วก็เดินทางกลับ โดยตนไม่รู้ว่าได้ลืมกระเป๋าไว้ตรงนั้น ซึ่งภายในกระเป๋ามีเงินที่ได้จากขายทุเรียนและเตรียมที่จะนำไปซื้อทุเรียนมาขายต่อจำนวน 5 หมื่นกว่าบาท

เมื่อตนกลับมาที่อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง ซึ่งระยะทางห่างกันประมาณ 25 กิโลเมตร เพื่อกลับมามาเอาหัวหมู่ที่ได้ไหว้พ่อขุนผาเมืองไว้ ระหว่างนั้นตนก็ยังไม่รู้ตัวว่าลืมกระเป๋าเงิน กระทั่งเก็บหัวหมูและสิ่งของต่าง ๆ เสร็จ ก็พากันขึ้นรถ และเตรียมที่จะไปกินขนมจีนหล่มเก่า ตนจึงได้ควานหากระเป๋าสะพาย ก็ไม่พบแล้ว ตนและสามีตกใจเป็นอย่างมาก เพราะมั่นใจว่าลืมไว้ที่ศาลเจ้าพ่อผาแดง จึงได้รีบขับรถกลับไปอีกครั้ง ระหว่างนั้นตนก็บนบานสิ่งศักดิสิทธิ์ต่าง ๆ ขอให้กระเป๋าอยู่ที่เดิม แต่อีกใจก็ทำใจไว้แล้ว เพราะขณะที่ตนกลับลงมากันนั้นก็ได้มีรถยนต์ 2-3 คัน ขับขึ้นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อผาแดงเช่นเดียวกัน

เมื่อตนและสามีไปถึงก็รีบวิ่งขึ้นไปที่ศาลตรงจุดที่วางกระเป๋า แต่ปรากฏว่าไม่พบกระเป๋าแล้ว ตนและสามีถึงกับเข่าอ่อน เพราะคิดว่าคงมีคนเอาไปแล้ว แต่ก็มีป้าที่มาไหว้ศาลได้เดินมาที่ตนเอง พร้อมกับถามว่าหาอะไร ตนจึงบอกว่าหากระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ป้าคนดังกล่าวจึงได้นำออกมาให้ ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และเงินก็อยู่ครบทุกบาททุกสตางค์

แม่ค้าขายทุเรียน เปิดเผยอีกว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินเก็บก้อนเดียวในชีวิต ใช้ในการนำไปลงทุนซื้อทุเรียนมาขาย ซึ่งถ้าหากหายไปตนจะเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีเงินลงทุนแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตนขอขอบคุณคุณป้าและครอบครัวที่ได้เก็บกระเป๋าเงินไว้ให้ในครั้งนี้

ข่าวโดย อารีย์ สีแก้ว ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเพชรบูรณ์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ