เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหนึ่งกรณีเพจเฟซบุ๊กแม่ทัพลิง 3/1 โพสต์ภาพคู่ของพระหนุ่ม 2 รูป ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ลอยกระทง เล่นน้ำ ทำความสะอาดพระพุทธรูป โดยระบุว่า สาธุ เจริญพร ต่อมามีการโพสต์ข้อความว่า โพสต์หลวงพี่ ฮันนีมูน เมื่อวาน มีคนหนึ่งภาพเผยออกมาเป็นชุดๆเลย

เห็นแล้วต้องร้องหา กองทัพธรรม กันเลยละ วันที่ 30 พ.ค. 65 ทีมข่าว ลงพื้นที่ไปยังวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นวัดที่พระทั้ง 2 รูปเคยจำพรรษาอยู่ เจ้าอาวาสไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ แต่ให้เป็นข้อมูล เนื่องจากจะถูกพระผู้ใหญ่ตำหนิ ระบุว่าพระหนุ่มทั้ง 2 รูป ไม่ได้บวชที่วัดนี้

พระภูมิ นามสมมติ มาอยู่ที่วัดแห่งนี้ก่อนประมาณ 2 ปี โดยทราบว่าบวชที่วัดพระธรรมกาย ต่อมาพระวัติ นามสมมติ คนที่มีรอยสัก สวมแว่น ได้ขอมาจำพรรษาด้วย ในใบสุทธิของทั้ง 2 รูป ระบุว่าบวชมามากกว่า 7 พรรษา โดยทั้ง 2 รูปเป็นเพื่อนกัน ทั้ง 2 รูป เป็นพระหนุ่มที่ค่อนข้างเก่งเรื่องคอมพิวเตอร์

และช่วยเหลืองานวัดมาโดยตลอด ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย ในลักษณะที่มีการพูดถึงกัน แต่มีข้อเสียคือระยะหลังทั้ง 2 รูปไม่ค่อยบิณฑบาตร จนมีการเรียกมาตักเตือน แต่คาดว่าทั้ง 2 รูปไม่พอใจ จึงออกจากวัดไปประมาณ 3 เดือนแล้ว โดยไปอยู่วัดต่างอำเภอใน จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่นั้นมายอมรับว่าภาพถ่ายในลักษณะดังกล่าวก่อนหน้านี้เคยเรียกมาสอบถาม

และตักเตือนไปแล้ว ทีมข่าวติดต่อทางโทรศัพท์กับพระวัติ นามสมมติ ชี้แจงว่า อาตมายืนยันว่าไม่มีการคบหากับพระที่ถ่ายภาพด้วย ทั้งขณะถ่ายภาพ และก่อนหน้าที่จะบวช ยืนยันว่าเป็นพระก็รู้ดีสิ่งใดควรไม่ควร หากคิดจะคบหากัน สึกไปเลยไม่ดีกว่าหรือ โดยพระที่ถ่ายภาพด้วยเป็นพระวัดเดียวกัน และเป็นช่างภาพ ถ่ายภาพสวย

มักจะถ่ายภาพกิจกรรมต่างๆ ของวัดเสมอ และจะถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก อาตมาจึงขอให้ถ่ายให้ในเวลาว่าง โดยการโพสต์ในแต่ละครั้ง แคปชั่นจะมีคติธรรม หรือข้อคิดทุกครั้ง คนนำไปโพสต์ต่อทำไมจึงไม่หยิบยกแคปชั่นไปด้วย สังคมจึงตัดสินเพียงแค่ภาพถ่ายที่นำมาลง ส่วนภาพอื่น ๆ ที่ทำงานวัด และกิจของสงฆ์ทำไมไม่นำมาลงด้วย

ส่วนภาพที่คล้ายเล่นน้ำนั้นยอมรับผิด เพราะดูไม่สำรวม อาตมาเข้าใจว่าช่วงนี้พระท็อปฟอร์ม และมักเรียกพระว่าเป็นอาชีพที่สบาย รายได้ดี แต่อาตมาอยากจะบอกว่า อาตมาเป็นพระบ้านนอก กิจนิมนต์เดือนหนึ่งเพียง 4-5 ครั้ง และอีกประเด็นภาพที่คล้ายไปต่างประเทศนั้น ที่ด้านหลังเป็นวิวตึกนั้น เป็นภาพที่ตกแต่งจากการตัดต่อ

ไม่ได้ไปจริง ล่าสุดมีพระอาจารย์นิมนต์อาตมาและพระภูมิไปอยู่ที่สำนักสงฆ์อีกแห่ง ซึ่งเป็นสำนักสงฆ์ในป่าห่างจากตัวเมืองเกือบ 200 กิโลเมตร เพราะวัดเดิมไม่สงบ มีพระเยอะแล้ว ส่วนกรณีที่บอกว่าพระภูมิมีภาพเผยไม่เหมาะสมนั้น อาตมาสอบถาม

ทราบว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพเก่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และมีกาบันทึกเก็บไว้ในโทรศัพท์ของพระภูมิเอง ด้วยความคะนอง ซึ่งมีผู้ไม่หวังดีแอบนำโทรศัพท์ไป และส่งต่อภาพในโซเชียลฯ ซึ่งขณะนั้นพระภูมิถูกตำหนิและตักเตือนไปแล้ว และปัจจุบันพระภูมิก็ปฏิบัติดีมาโดยตลอด

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews