แม่พนิดา เห็นหลักฐานจากโทรศัพท์แตงโมแล้ว

แม่พนิดา เห็นหลักฐานจากโทรศัพท์แตงโมแล้ว

เมื่อเวลา 13.32 น. วันที่ 28 พ.ค.65 ที่คริสตจักรเมธอดิสท์รังสิต คลองสี่ จ.ปทุมธานี นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของน้องแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) เดินทางมาพร้อมด้วย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ คุณภคอร จันทรคณา (อุ๊) รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เพื่อเดินทางมาทำพิธีปิดศิลา เพื่อเก็บอัฐิของแตงโม ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น

โดยเมื่อคุณแม่มาถึงก็ได้เดินขึ้นไปชั้นบน ที่เป็นห้องพิธีในการรับอัฐิ โดยมีแฟนคลับของน้องแตงโมเดินทางมารอ พร้อมกับมอบข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวไก่ย่าง พานดอกไม้ หนังสือแฟชั่นรวมรูปภาพของแตงโม และเงินสด 1,000 บาท เพื่อร่วมทำบุญ พร้อมทั้งโอบกอดแม่คุณแม่เพื่อให้กำลังใจ โดยครอบครัวเตรียมนำอัฐิส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่โซนกัลปังหา ช่องหมายเลข 9 บริเวณกตเวทิตา ระเบียงอาลัย ซึ่งอยู่ติดกับนายพ่อโสภณ พัชรวีระพงษ์ คุณพ่อของแตงโม วันนี้คุณแม่ของแตงโม สวมใส่ชุดสีฟ้า พูดเพียงสั้นๆว่า “วันนี้ที่ดูสดใส อาจจะเป็นเพราะใส่เสื้อสีฟ้า โดยแผ่นหินอ่อนให้ทางคริสตจักรเตรียมไว้ให้ โดยคุณแม่ก็ยังไม่เห็นเหมือนกัน ส่วนรูปเป็นรูปที่น้องสวยๆ โดยจะติดไว้คู่กับคุณพ่อ โดยมีญาติของทั้งฝั่งคุณพ่อ และคุณแม่ของน้องแตงโมเดินทางเข้ามาร่วมงาน แต่ทั้งหมดจอดรถที่บริเวณชั้นใต้ดินของห้องพิธีเพื่อหลบสื่อ โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 15.00 น. ทางคุณแม่ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเดินทางเข้าไปเก็บภาพ ที่โซนกัลปังหา ช่องหมายเลข 9 บริเวณกตเวทิตา ระเบียงอาลัย ซึ่งเป็นจุดที่คุณแม่นำอัฐิของน้องแตงโมส่วนหนึ่งไปเก็บไว้ โดยกระดูกของน้องแตงโม ได้แบ่งไว้ทั้งหมด 3 ส่วน ส่วนแรกคุณแม่เก็บไว้ ส่วนที่สองได้มอบให้เบิร์ด เพราะเบิร์ดโทรมาขอแม่ แล้วเมื่อที่ 27 พ.ค. ได้นำดอกไม้มาไว้อาลัยกับแตงโมแล้ว ส่วนที่ 3 ได้เก็บไว้ที่คริสตจักรข้างที่เก็บอัฐิของคุณพ่อน้องแตงโม โดยพิธีการการบรรจุอัฐิของน้องแตงโม จัดขึ้นที่บริเวณชั้น 2 โดยครอบครัวไม่อนุญาตให้ทางสื่อมวลชนขึ้นไปเก็บภาพ เพราะครอบครัวต้องการความเป็นส่วนตัว ส่วนแผ่นป้ายที่บริเวณช่องเก็บอัฐิ จะมีการสลักชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด และวันที่เสียชีวิต จะสลักไว้ว่า อยู่กับพระเจ้า พร้อมข้อความด้านล่างว่า ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แด่ความรักใหญ่ที่สุด

เวลา 16.00 น. นางภนิดา เดินทางลงมาจากด้านบน พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า การทำพิธีทางศาสนาคริสต์ และก็มีอาจารย์สวด 1 รอบ ก่อนจะมีอาจารย์ให้ร้องเพลง 2 เพลงแรก ชื่อเพลงพักพิงในพระเจ้า โดยเนื้อหาภายในเพลงเป็นการให้กำลังใจคนที่อยู่ เพลงที่สองชื่อขอพระเจ้าอยู่ด้วยจนเจอกันอีก ความหมาย เป็นการเชื่อว่าเราจะได้เจอแตงโมอีกบนสวรรค์ แต่ไม่ใช่บนดิน จากนั้นก็สวดอีกรอบ ก่อนที่จะมีพิธีปิดศิลาที่ช่องอัฐิน้องโม โดยทุกอย่างคุณแม่เป็นคนเลือก แล้วถ้าใครคิดถึงโม ก็มาหาน้องโมได้ทุกวันที่นี่ ส่วนแม่ถ้าคิดถึงก็จะมาหาน้องที่นี่ ส่วนอัฐิก็จะเอาเก็บไว้ที่แม่ และแบ่งไปให้เบิร์ดด้วย เพราะเบิร์ดได้ขอแม่มา โดยการทำพิธี คุณแม่ได้ร้องเพลงไปด้วยพร้อมกับร้องไห้ โดยตอนที่ทำพิธีปิดศิลาช่องอัฐิ ก่อนที่จะปิดแม่เอามือไปจับในโถของโมขึ้น พร้อมบอกว่าขอให้โมไปอยู่บนสวรรค์ ขอให้โมมีความสุข ขอให้โมมาเยี่ยมแม่บ้าง โดยความรู้สึกตอนนี้หัวใจของแม่อยู่ที่โถกระดูกของโม โดยเมื่อวันที่เผาแม่ได้เห็นน้องในสภาพเป็นปกติ ไม่เหมือนตอนที่เจอในน้ำ น้องปกติสวยงามมาก อันนี้เป็นภาพจำที่สวยแล้วสำหรับแม่

ส่วนการเดินหน้าทางคดี ทางแม่ก็จะเดินหน้าเต็มที่ โดยทางแม่จะให้ทีมทนาย ส.ส.เต้ เดินหน้าทางคดี การที่ตนเองมาอยู่กับทาง ส.ส.เต้ ก็รู้สึกดี สบายใจ และทุกอย่างต้องร่วมมือกัน เรื่องคดีในตอนนี้ คุณแม่คิดว่าเรามาถูกทางแล้ว เพราะเราได้ผู้นำทีมที่ดี ฉลาด อารมณ์ดีสูง ไม่พูดมาก และทำงานเร็ว แถมยังพูดเก่งด้วย ส่วนเรื่องทางคดี ครอบครัวทางคุณพ่อขอโม ก็มีการพูดคุยกัน และให้แม่ดำเนินการ โดยเห็นชอบกับแม่ด้วย ส่วนเรื่องโทรศัพท์ ที่มอบให้บังแจ็คไป บังแจ็ครับปากแม่แล้ว ว่าหยุด โดยทางบังแจ็คก็หยุดโพสต์มาแล้วเป็นอาทิตย์ ตอนนี้ก็จะมีเพจปลอมออกมา โดยทางบังแจ็คก็กำลังจะส่งมือถือที่กู้ข้อมูลมาแล้ว ก็จะสามารถนำส่งกลับคืนมา แต่ไม่ได้ส่งให้แม่ ให้ส่งไปให้กับบุคคลที่ไว้ใจได้ก่อน

เพราะแม่กลัวได้รับอันตราย และกลัวโทรศัพท์หาย เพราะประวัติของบังแจ็ค คุณแม่ก็เคยเห็นในอินเทอร์เน็ต แต่ของพวกนี้เราต้องได้สัมผัสก่อนถึงจะรู้ แต่ตอนแรกแม่ก็ไม่ชอบบังแจ็ค แต่ทางบังแจ็คได้มีการโทรมาหลายครั้ง จนมีนักข่าวคนหนึ่งบอกว่ารับหน่อย บังแจ็คมีอะไรจะคุยด้วยเรื่องน้องแตงโม คุณแม่จึงรับ และได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องแตงโม ส่วนเรื่องการเรียกเงินยืนยันไม่มีใครเรียกใคร แม่ก็ไม่ได้เรียกเงิน ส่วนบังแจ็คก็ไม่ได้เรียกเงินแม่ แต่ต้องการช่วยเท่านั้น

ส่วนเรื่องไม่ดีของบังแจ็ค ตั้งแต่แม่สัมผัสเขาก็เป็นคนดี จะช่วยเหลือใคร เขาช่วยเต็มที่ ยังเคยเอ่ยปากบอกแม่เลยว่า แม่มีเงินไหม เดี๋ยวผมโอนเงินช่วย แม่บอกแม่มี แม่ไม่เอา เขาก็ยังบอกว่าจะเอาที่ดินผมไหม เดี๋ยวผมยกให้ ให้แม่ไปทำอะไรก็ได้ แม่ก็บอกว่าไม่เอา โดยบังแจ็ค ก็บอกคุณแม่หลายเรื่องเกี่ยวกับเรื่องน้องแตงโม โดยคุณแม่ไว้ใจในระดับหนึ่ง เพราะเป็นคนค่อยช่วยเหลือและกู้ข้อมูล โดยแม่คุยกับบังแจ็คล่าสุดคือ เมื่อตอนตี 4 ที่ผ่านมา โดนถามถึงเรื่องสารทุกข์สุกดิบ ก็เลยบอกว่าไม่ต้องโพสต์แล้วนะ บังแจ็คก็รับปาก พร้อมบอกว่าไม่ได้โพสต์แล้ว

โดยยังพูดถึงเรื่องคนไทยที่อยู่ที่นั่น ไปถ่ายรูป ถ่ายบ้าน การใช้ชีวิตประจำวันเขา โดยแม่ไว้ใจบังแจ็คว่าจะไม่มีการแบล็กเมล์แน่นอน โดยการนำโทรศัพท์ไปกู้ข้อมูลนั้น ต้องมีประโยชน์ และจะนำไปเป็นหลักฐาน ส่วนเรื่องโม จะถูกฆ าตกรรมไหม แม่ขอไม่ตอบแต่ยืนยันว่าน้องโม ไม่ได้เสียชีวิตในน้ำ แต่เสียชีวิตบนบก โดยโม ถ่ายรูปมาทุกอย่างเพื่อเป็นหลักฐาน โดยถ่ายทั้งถนน ทางเดิน หรือทุกอย่างที่คิดว่าเป็นหลักฐานได้ โดยโมคิดว่าตนเองจะไม่รอด จึงได้สร้างหลักฐานไว้

ส่วนปอ และโรเบิร์ต ก็ยังเหมือนเดิม แต่ไม่ได้คุยเรื่องคดีกับทั้งสองเลย โดยแม่ไม่คุยเรื่องคดี เพราะแม่กลัวใช้คำพลาด แต่ความรู้สึกที่คุณแม่มีต่อ บังแจ็ค ปอ หรือโรเบิร์ต ก็ยังเหมือนเดิม ส่วนข้อมูลนั้นบังแจ็คก็กู้ข้อมูลขึ้นมาได้ทั้งหมดแล้ว แม่คิดว่าเป็นการถูกฆา ตกรรม ส่วนทางนายอัจฉริยะ คุณแม่ก็เพิ่งได้คุยเมื่อวาน ซึ่งอยากคุยนานแล้วแต่มีคนห้ามไม่ให้โทร ก็เพิ่งจะได้โทรเมื่อวาน ก็คุยกันยาวเลย ถึงเรื่องน้องโม

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า กรณีโพสต์ถึงบังแจ็คใครก็ตามที่ได้พูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นมิจฉาชีพดูตัวเองหรือยังน้อง บังแจ็คถือเป็นผู้ตรวจสอบวัตถุพยาน อย่าลืมว่าคุณแม่ได้ไปให้หลายบริษัทต่างๆ ในประเทศไทยตรวจสอบแล้วแต่ไม่มีใครกล้ากู้ข้อมูลเพราะกลัวกันหมด ตอนแรกตนก็ไม่รู้ข้อมูลนี้ มัวแต่ไปมุ่งแต่เรื่องอื่น ตอนหลังตนได้มีการประสานกับคุณแม่ ทราบว่าไม่มีใครกู้ให้รูปมันก็หายไปเยอะ แม่ก็จำได้ คุณแม่เลยให้บังแจ็คกู้ เพราะบังแจ็คเป็นวัยรุ่นที่มีความรู้ความสามารถมีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ฉลาดหลักแหลม

เขาถือเป็นผู้ตรวจวัตถุพยาน เวลาเราเอาพยานในมือถือแตงโมขึ้นสู่ศาลไต่สวน มันจะต้องมีการยืนยันด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องปกป้องเขาจนถึงศาลไต่สวนหรือสืบพยานไปแล้ว เราจะต้องปกป้องเขา เพื่อให้เขาอยู่เป็นผู้ตรวจสอบพยานในการยืนยันในชั้นศาล ตนเองคิดว่าศาลรับฟังหมดทุกฝ่าย ขนาดอัยการยังตีกลับสำนวนตำรวจเป็นว่าเล่น สำหรับคดีความของบังแจ็คยังไม่มีคำวินิจฉัยถึงที่สุด คดีเก่าๆ ที่ตนตรวจสอบของบังแจ็ค

ส่วนใหญ่เป็นคดีข่มขู่ที่หมดอายุความหมดแล้ว มีคดีใหม่ 1 คดี คือ คดีหมิ่นประมาทคนที่ดำเนินคดีก็ยังไม่ไปให้การเพิ่มเติม ตนอยากให้บังแจ็คเข้ามาเป็นผู้พยานในฐานะตรวจสอบพยานด้วยในระหว่างที่อยู่ในประเทศไทยตนเองจะประกันตัวให้ ตนเองพร้อมดูแลทุกเรื่องตนเองเคลียร์ได้หมด เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ตนเองพร้อมดูแลจนสืบพยานจนสิ้นศาลชั้นต้นไปก่อน พอสิ้นศาลชั้นต้นก็จะไม่มีหน้าที่ ตอนนั้นตนเองก็จะไม่ดูแลตนเองจะดูแลในฐานะผู้ตรวจสอบวัตถุพยาน เท่าที่ตนเองดูคดีทั้งหมดแล้วบังแจ็คจะกล้าเข้ามา ตอนนี้ยังไม่จำเป็น จนกว่าศาลจะมีหมายเรียกพยาน หลังจากนั้นมาเสร็จหากมีคดีไหนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ประกันตัวก็แค่ชั้นพนักงานสอบสวน ในส่วนของทนายษิทรา ทนายเดชา หรือทนายทุกคน

ขอความกรุณาคิดนิดนึงเวลาพูดอย่าใส่ความผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ผู้เสียหายโดยตรงคือแม่ ตอนนี้ได้เตือนมาสองรอบแล้ว เหมือนจะทนไม่ไหว ทางเราไม่ได้ดำเนินคดีสื่อ เพราะสื่อต้องเป็นกลาง แต่ใครให้สัมภาษณ์ต้องรับผิดชอบตัวเอง วันนี้เตือนเป็นวันสุดท้าย รู้ว่าทุกคนมีคดีอะไรบ้างอย่าให้ตนต้องทำให้ไปไกลกว่านี้เลย เพราะทุกคนรู้ฝีมือตนอยู่ เพราะฉะนั้นเตือนครั้งสุดท้าย สำหรับพิธีกรหนุ่มกรรชัย ตอนหลังก็คุยกับตนดีแล้วไม่มีปัญหา หากกรรชัย มีคดีอะไรตนเคลียร์ให้ได้แล้วกัน สำหรับพิธีกร สื่อ ต้องเป็นกลาง สื่อมวลชนสามารถซักถามได้มีสิทธิเสรีภาพ

ตั้งแต่มาทำคดีนี้มีคนบนเรือให้คนอื่นติดต่อมาก็ไม่รู้ว่าใช่รึเปล่า อาจจะชื่อซ้ำกันก็ได้ บอกว่าจะเอาเงินมาวางไว้ที่บ้านตนจำนวน 15 ล้าน เมื่อช่วงเดือนมีนาคม คงคิดว่า 15 ล้านคงไม่ไหว ถ้ามีถึง 5 พันล้านค่อยมาคุยกัน มีถึงมั้ย 3 คน 5 คนรวมกันถ้ามีถึงค่อยมาคุยกัน สำหรับโพสต์เมื่อเช้าที่ลบออกไปถือเป็นการเตือนเพราะมีคำว่าสื่อมวลชน สำหรับ กรณีบังแจ็คกับพี่หนุ่มกรรชัยเคยขู่กันจะเคลียร์กันได้มั้ย ตนคิดว่าทั้งสองคนมีคดีทั้งคู่ คิดว่าจะสามารถเคลียร์ให้ได้ ตอนนี้ทุกคนก็มุ่งเน้นที่จะช่วยคุณแม่หาคนผิดมาลงโทษ ทนายความ สื่อมวลชนจะช่วยตรงไหนก็บอกกันได้เราพร้อมเปิดกว้างหน้าที่จุดนี้ช่วยกันได้ กรณีบังแจ็คจะส่งโทรศัพท์มือถือมาให้นั้น ส่งมาที่ตนหรือไม่นั้นตอบไม่ได้ แต่ตนเองรับรู้เพราะถือเป็นพยานวัตถุสำคัญ

หากเป็นภาพจริงจะต้องมีการเช็กมือถือที่กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ดูว่าเหมือนกันไหม ภาพระบุกี่โมงลบกี่โมง หากเป็นตำรวจลบภาพไปตนไม่เอาเรื่องเพราะครอบครัวจะเดือดร้อน ในขั้นตอนการทำพิธีตนบอกว่าให้น้องแตงโมไปอยู่สวรรค์ ส่วนเรื่องคดีทางนี้เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้ เพราะฉะนั้นใครคิดจะเคลียร์กับตนเองมี 5 พันล้าน ค่อยมาคุยกัน กรณีหลักฐานในมือถือมีแน่นอน แต่เปิดไม่ได้ เพราะเปิดไปจะกระทบอีกคนหนึ่งก็จะโดนเรื่องหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากโจทก์อาจจะกลายเป็นจำเลย กรณีจะเปิดขอเปิดในศาลดีกว่า

ขอบคุณ ไทยรัฐ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ