พชร์ อานนท์ เผยคลิปลับแตงโมไม่ใช่โตโน่

พชร์ อานนท์ เผยคลิปลับแตงโมไม่ใช่โตโน่

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นพูดถึงกันอย่างมากจากกรณีที่บังแจ็ค ได้เผยหลักฐานเป็นคลิปเสียงกับทางอมรินทร์ โดยบังแจ็คอ้างว่าเสียงดังกล่าวเป็นเสียงของแตงโมกำลังสนทนากับใครบางคน โดยมีเสียงนึงที่แตงโมพูดว่า ไม่โอเคกับมัน ให้ไปหามันทำไม สิ่งที่คุณทำอยู่เป็นการบังคับ

ทั้งทางกายและจิตใจ มันผิดกฏหมายคุณรู้ไหม โดยเสียงที่ออกมาเหมือนมีคนร้องไห้อยู่ จากนั้นบังแจ็กได้เปิดคลิปเสียงบางช่วงบางตอนออกมา เหมือนว่าเขาก็โดน เขาเป็นแบบแม่ ตัวเองเป็นแบบพ่อ แต่ตัวเองทำกับเค้าแบบนั้น แต่ตัวเองมานั่งเรียกร้องกับเค้าบอกว่าโดน

เค้าโดนอะไรบ้าง กายโดนนะ จิตใจโดนนะ แล้วทำไมเขาจึงอยู่กับตัวเองได้ และคิดว่าจะอยู่กับตัวเองต่อไป และหลังจากนี้ก็จะไม่เลิกกัน เชื่อไหม เขาไม่เข้าใจว่าโน่มีปัญหาอะไรอยู่คนเดียว วันที่ 27 พ.ค. 65 พชร์ อานนท์ เปิดเผยว่า คดีของแตงโมก่อนหน้านี้ตนเป็นคนหนึ่งที่สนใจการติดตามข่าวแตงโมตลอด

แต่เมื่อจัดพิธีไปแล้ว เราก็รู้สึกว่าน้องเขาไปดีแล้ว ไม่อยากยุ่งอะไรแล้ว ตอนนี้มีประเด็นการพยายามค้นเรื่องอะไรกันก็ไม่รู้ ต้องให้เกียรติคนจากไป ไปค้นเรื่องส่วนตัว เอาภาพลับเขามามันเป็นคนละเรื่องกับบนเรือเลย เอาหลักฐานส่วนนี้ขึ้นศาลก็ถูกปัดตกหมด

กรณีที่บังแจ็คนำคลิปเสียงเหตุผลมีปัญหากันมาเปิด มองว่ามันนอกเรื่อง ไม่ได้เกี่ยวกับบนเรือ เพราะไม่ได้มีปัญหากันบนเรือ เห็นไปสัมภาษณ์ใครในบรรดาแฟนของแตงโม อย่างแต๊งค์ว่าเป็นคนในคลิปเสียงหรือไม่ ก็ไม่ใช่แต๊งค์ ไปถามผู้จัดการโตโน่

ซึ่งก็ไม่ใช่ หรือที่หลายคนสงสัยว่าเป็นนิกหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริงก็เป็นเรื่องที่เก่ามาก เห็นมีคำพูดว่าโน่ ซึ่งก็เป็นเพื่อนชั้นสองของแตงโม เพราะมีคนชื่อจูโน่ เขาเป็นแฟนของช่างแต่งหน้าแตงโม ซึ่งก็อาจจะเป็นการพูดกับจูโน่ก็ได้ แต่ส่วนตัวมองว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับคดี

ไม่ได้เกี่ยวเรื่องบนเรือ ควรให้เกียรติ ไม่เข้าใจจะค้นเพื่ออะไร ยอมรับว่าโกรธแทนน้อง น้องไปดีแล้วแต่ไม่ยอมจบกันสักที ซึ่งกระติกก็ออกมาพูดแล้ว พูดกี่ครั้งกี่ครั้งกระติกก็พูดคำเดิม ส่วนใหญ่คนที่พูดความจริง พูดกี่ครั้งก็จะพูดเหมือนเดิม

เขาไม่ได้โกหก ตนไม่ได้เข้าข้าง อยากบอกว่าระวังไว้ให้ดีสำหรับพวกที่เป็นโจทย์จะกลายเป็นจำเลยเอา อย่างแม่ของแตงโมก็อาจจะกลายเป็นจำเลยก็ได้ เพราะไปสนับสนุนการค้น มองว่ามันไม่ใช่แล้วตอนนี้ อย่าลืมว่า 5 คนบนเรือเขาก็เก่งเรื่องกฎหมาย

มีทนายเก่ง ๆ อะไรที่หยุดได้ก็น่าหยุด ถ้าเขาบอกว่าเป็นเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ยังยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ตั้งใจถ้าวันหนึ่งศาลตัดสินว่าเป็นสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจจริงจะยังไม่เชื่อเหรอ จะพยายามให้เป็นสิ่งที่ตั้งใจให้ได้เหรอ และคนที่กำลังค้นอยู่ตอนนี้อยู่บนเรือเหรอ มันควรเป็นหน้าที่ของศาล

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ