ลุงทรุดแก๊งคอลฯตุ๋นสูญ 4 ล้านหายพริบตา เล่านาทีโอนทำกันได้ลง
วันที่ 18 พ.ค. 65 เดินทางมาพบ นายเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 49 ปี ผู้เสียหาย ขณะนี้ได้ทำการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จฃ.ปทุมธานี และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) แล้ว นายเอ๋ (นามสมมติ) บอกว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.21 น. ได้มีเบอร์แปลก หมายเลข +66622374566 โทรมาหาตน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยประจำจังหวัดชลบุรี พร้อมบอกตนว่า ตนมีพัสดุผิดกฎหมายตกค้างอยู่ที่จังหวัดชลบุรี จ่าหน้าส่งไปยังประเทศจีน ได้แก่ พาสปอร์ต 12 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 9 ใบ และเสื้อผ้า 5 ตัว จึงขอให้ตนเดินทางไปยัง สภ.แหลมฉบัง เพื่อชี้แจง
แต่เนื่องจากตนไม่สะดวก อีกทั้งยังมึนงง เพราะตนไม่เคยส่งพัสดุจากชลบุรี อีกฝ่ายจึงโอนสายของตนไปหาอีกบุคคล ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมได้ขอแอดไลน์ตน
จากนั้นไลน์ปลอม ซึ่งใช้ชื่อว่า สภ.แหลมฉบัง ก็ได้ทักตนมา พร้อมวิดีโอคอลหาตน ในเวลา 15.20 น. แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้วิดีโอคอลมาหาตน อีกฝ่ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างเป็นผู้กำกับ สภ.แหลมฉบัง ได้บอกกับตนว่าชื่อของตนพัวพันการฟอกเงิน อีกฝ่ายขอให้ตนเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวแล้วจะดำเนินการช่วยเหลือ เช่น ทรัพย์สิน เงินเก็บ บัญชีธนาคาร ซึ่งหากตนไม่ยอมบอก อีกฝ่ายก็จะขู่ว่าจะทำการอายัดเงินในบัญชีของตนทั้งหมด อีกฝ่ายบอกให้ตนโอนเงินในบัญชีที่มีการผูกกับแอปพลิเคชันธนาคารไปให้ เพื่อทำการตรวจสอบ
โดยตนเริ่มรู้สึกเอะใจ เนื่องจากเงินที่โอนเงินไปนั้นเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของตน แต่อีกฝ่ายบอกว่าจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที แล้วจะโอนคืนกลับมา ตนจึงโอนเงินไปจำนวน 4,043,683 บาท ซึ่งเป็นเงินทั้งหมดในบัญชีของตน ไปยังบัญชีของนายบริบูรณ์ คำวิเศษ ในเวลา 16.11 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมอ้างว่าเป็นบัญชีของฝ่ายตรวจสอบทรัพย์สิน
ในเวลา 16.20 น. ตนได้เดินเข้าไปยังธนาคาร พร้อมเปิดลำโพงโทรศัพท์มือถือ ธนาคารจึงบอกว่าปลายสายของตนเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และตรวจสอบพบว่าเงินที่ตนโอนไปนั้น ถูกส่งต่อไปยังหลากหลายบัญชี โดยแบ่งเงินออกเป็นก้อนเล็ก ๆ หลักหมื่นและหลักแสน ตนบอกให้ธนาคารรีบอายัดบัญชีของตน แต่ธนาคารแจ้งว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต้องมีใบแจ้งความมาแสดง ซึ่งตนติดใจระบบของธนาคาร เนื่องจากตนเป็นเจ้าของเงิน/บัญชี มีบัตรประชาชนยืนยันตัวตน แต่ธนาคารไม่ให้ความช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่เงินของตนสูญหายไปต่อหน้า
จากนั้นตนก็ได้เดินทางไปยัง สภ.คูคต เพื่อแจ้งความ ในเวลา 21.06 น. วันที่ 13 พ.ค. และเดินทางไปแจ้งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกตนว่าใช้เวลาค่อนข้างนาน และอาจได้เงินคืนไม่เต็มจำนวน ยิ่งหากเงินถูกส่งออกนอกประเทศ จะตามเงินกลับคืนมาได้ยาก ขณะนี้ตนมีความหวังที่จะได้เงินคืนเพียง 1% เพราะจากข่าวต่าง ๆ ยังไม่เคยมีใครได้เงินคืน เงินจำนวน 4 ล้านบาท เป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของตน เป็นเงินจากอาชีพขายลอตเตอรี่ ขายยาง และขายที่ดิน โดยตนตั้งใจจะเก็บไว้เป็นทุนประกอบอาชีพและนำไปเป็นทุนการศึกษาให้ลูกสาววัย 21 ปี และ 18 ปี แต่ขณะนี้ตนไม่เหลือเงินดังกล่าวแล้ว