นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังได้เข้าไปกราบไหว้หลวงปู่แสง และฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ระบุส่วนตัวไม่เคยมากราบไหว้หลวงปู่แสงมาก่อน แต่เคยได้ยินชื่อเสียงหลวงปู่ว่าเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ภายหลังได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่คณะหมอปลาอ้างว่าเป็นหลักฐานที่มีผู้เสียหายร้องเรียนว่าถูกหลวงปู่ล่วงละเมิด ส่วนตัวมองว่าเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อทำลายและเหยียบย่ำหัวใจชาวพุทธและชาวอีสาน จึงทนไม่ได้และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อตัวเองได้เข้าไปกราบไหว้หลวงปู่แสง ปรากฎว่า หลวงปู่เป็นพระที่มีเมตตามาก

หลวงปู่บอกว่า ขอให้ทนายอนันต์ชัยยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น ท่านไม่เอาเรื่องเอาราวกับผู้ที่มาบุกรุก ขอให้เรื่องราวจบเพียงเท่านี้ ขออโหสิกรรมและอภัยทานให้กับคณะหมอปลาและนักข่าว นอกจากนี้ยังย้ำกับลูกศิษย์และพระลูกวัดอย่าเอาผิดบุคคลเหล่านั้นตามกฎหมาย ซึ่งทนายอนันต์ชัยก็น้อมรับการตัดสินใจของหลวงปู่ ยุติบทบาทตัวเองเพียงเท่านี้ เว้นแต่ลูกศิษย์หลวงปู่หรือพระที่อยู่ในเหตุการณ์จะขอให้ทำคดีเพื่อทวงความยุติธรรมให้หลวงปู่

ทนายอนันต์ชัยชี้แจงเพิ่มเติมว่า การกระทำของคณะหมอปลา หากจะดำเนินคดีทางกฎหมาย เข้าข่ายกระทำผิด 5 ข้อหา บุกรุกสถานที่สาธารณะ สร้างหลักฐานเท็จ บังคับข่มขืนใจผู้อื่น หมิ่นประมาทเพื่อโฆษณา และซ่องโจร

และทนายอนันต์ชัยได้ทิ้งท้ายถึงนักข่าวที่ร่วมกับหมอปลาในเหตุการณ์ดังกล่าวว่า แม้ว่าหลวงปู่จะอโหสิกรรมให้ แต่ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ ให้นักข่าวขอขมากรรมหลวงปู่ทุกเช้า เพราะติดกรรมหนัก หากท่านเป็นพระอรหันต์จริงถึงขั้นตกนรกอเวจี

ด้านนางสาวสุระภา อารีราษฎร หลานสาวหลวงปู่แสง บอกกับทีมข่าว หลวงปู่ไม่มีจิตผูกสิ่งไหนๆให้โลกนี้ จึงให้อภัยทุกคนรวมทั้งนักข่าว ต่อจากนี้ญาติจะร่วมประชุมกับคณะสงฆ์ ทั้งเรื่องเงินที่ยังมีลูกศิษย์แคลงใจ และการดูแลหลวงปู่ต่อจากนี้ ส่วนตัวอยากรับท่านกลับไปดูแลที่ขอนแก่น เพราะญาติท่านอยู่ที่นั่น แต่ต้องถามความสมัครใจหลวงปู่ ว่าจะพำนักที่ยโสธรหรือขอนแก่น

นอกจากนี้มีลูกศิษย์หลวงปู่ เป็นชาวบ้านอำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร นำเอกสารมายื่นให้ทนายอนันต์ชัยดำเนินคดีกับกลุ่มหมอปลาและคณะ เพราะรับไม่ได้กับ

พฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากบุคคลเหล่านี้เป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา จึงขอแสดงพลังและร้องทุกข์กล่าวโทษ

โดยในช่วงเย็นวันนี้คณะสงฆ์ซึ่งเป็นพระวัดป่าจะประชุมหารือ เพื่อจัดระเบียบพระสงฆ์ที่ดูแลหลวงปู่ และปรับเรื่องการรับกิจหลวงปู่ รวมทั้งเงินส่วนตัวของหลวงปู่ คาดว่าคงมีความชัดเจนในเรื่องการดำเนินการต่อจากนี้