แร็ปเปอร์สาว มิลลิ ดนุภา ได้เผยความรู้สึกหลังได้ขึ้นโชว์บนเวทีระดับโลกอย่าง Coachella ไม่เคยกล้าฝันว่าตัวเองจะได้ไปขึ้นโชว์ พร้อมขอบคุณทุกคนที่ให้การตอบรับดีมาก

เป็นอีกหนึ่งนักร้องสาวสายแร็ปของเมืองไทย ที่ได้ไปขึ้นโชว์เวทีสุดยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง Coachella ที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา สำหรับแร็ปเปอร์สาว มิลลิ ดนุภา ที่เมื่อขึ้นไปแสดงบนเวทีก็เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ ที่มาชมได้อย่างสนั่นกันเลยทีเดียว อีกทั้งคนบันเทิงยังแห่ชม มิลลิ กันท่วมท้น และที่พีคสุดคือเจ้าตัวได้พาข้าวเหนียวมะม่วง ของอร่อยจากเมืองไทยไปโชว์บนเวที และยังพาผู้ชมเต้นแอโรบิคสุดมันส์อีกด้วย

ล่าสุด มิลลิ ดนุภา ได้เล่าว่า กลับมาได้ประมาณอาทิตย์นึงแล้ว จริง ๆ ต้องบอกว่าบ้านหนูมีต้นมะม่วงอยู่แล้ว เราก็เลยทานทุกวันเลย กระแสทุกคนให้การต้อนรับดีมาก ต้องขอบคุณทุกคนมาก ๆ ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจขนาดนี้ ที่อยู่บนเวทีที่เลือกเป็นข้าวเหนียวมะม่วงเพราะว่า อยากทำอะไรสักอย่างที่กวน ๆ ปั่น ๆ รู้สึกว่าความเป็นข้าวเหนียวมะม่วงมันเป็นหนูมาก ๆ และถ้าไปกินบนเวทีก็จะเป็นหนูมาก ๆ ขึ้นไปอีก

อยากทำเพราะว่าทั้งโชว์รอซีนนี้เลยเพราะว่าหิว (หัวเราะ) และที่นู่นข้าวเหนียวมะม่วงหาได้ง่ายมาก ๆ เลย เพราะเขาชอบทานกันอยู่แล้ว หลายคนบอกว่าหนูสร้างมูลค่าให้ข้าวเหนียวมะม่วง ขอบคุณมาก ๆ ก็ดีใจขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมและชื่นชอบ ส่วนเพลงที่ 2 ที่เป็นแอโรบิค เป็นเพลงใหม่ที่อยู่ในอัลบั้ม เราก็รู้สึกว่าข้าวเหนียวมะม่วงได้จบไปในวีคแรกแล้ว เลยหาอะไรมาทำใหม่ที่มันแตกต่างออกไป เป็นออกกำลังกาย นี้เป็นเพลงใหม่ที่ทำเสร็จมาสักพักแล้ว

ก็หลาย ๆ ประเทศก็จะมีแบบนี้ แต่ไทยเราก็จะรถแห่หน่อย ยกระดับเวทีแอโรบิคไม่ถึงขนาดนั้นก็เป็นอะไรที่หยิบมา เพราะค่อนข้างชื่นชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว และเป็นเพลงที่เสร็จตั้งนานแล้วเลยเอามาร้อง และเดี๋ยวจะปล่อยเอ็มวีด้วยเร็ว ๆ นี้ ส่วนการเตรียมตัวสำหรับเวทีนี้ จริง ๆ ไปอยู่อเมริกาเป็นเดือนเลย ซ้อมหลายวันเลยก่อนจะออกมาเป็นโชว์อันนั้น จริงไม่กล้าพูดว่าเป็นความฝันของเราเลยไหม เพราะไม่เคยกล้าที่จะเอาไปฝัน ไม่กล้าคิดว่าตัวเองจะได้ไปขึ้นโชว์

ตอนที่เขาติดต่อมา ตอนแรกไม่กล้าไป รู้สึกว่าตัวเองยังไม่เหมาะกับเวทีนี้ เขายิ่งใหญ่มาก แต่ที่ทำให้เซย์เยสเพราะมันอาจจะเป็นโอกาสครั้งแรกและครั้งสุดท้าย และไม่รู้ว่าเขาจะมาชวนหนูอีกหรือเปล่า คิดว่าคงเท่ดีถ้าได้มีโอกาสบอกบุตรตนเองว่า แม่ได้โชว์บนเวที Coachella มาก่อนนะ คิดไว้แล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงานเลยนะ ไปอยู่เวทีแล้วเห็นคนดูเป็นแสน ๆ ตอนนัันคิดว่าบ้าไปแล้ว เสียงนี้อยู่ในหัว และรู้สึกว่าทุกอย่างมันช้ามาก ๆ จนเราสามารถนับจังหวะได้เลย และดีใจมาก ทุกคนน่ารัก

เจ้าตัวยังบอกอีกว่า และพอมันเป็นเฟสติวัล เขามาเสพดนตรี บางท่านเขาอาจจะไม่รู้จักหนูแต่เขาก็ยินดีรับฟัง และในฐานะที่เป็นแฟนคลับศิลปินเกาหลีมาหลายปีมาก ๆ ก็ดีใจ แจ็คสันเขาหล่อมาก ได้เจอกันจากงานนั้นแหละค่ะ เขาชอบคนไทยมาก ๆ เขาให้หนูสอนภาษาไทยมาก หนูสอนคำว่า เลิศ ไป เขาพูดได้ค่ะ ส่วนชวนทำเพลงด้วยกันไหม อันนี้บอกไม่ได้ ที่เขามาฟอลโล่เรา ดีใจค่ะ ร้องไห้ออกไลฟ์ไม่รู้จะร้องยังไงให้สวยเลย เขาจะมาเมืองไทยอันนั้นไม่แน่ใจ

ส่วนที่จองกุก เปิดฟังเพลง หนูติ่งเขามา 7 ถึง 8 ปี ดีใจมาก ๆ พอรู้ข่าวปุ๊ปหนูไลฟ์เลย และเราอยากเก่งเรื่อย ๆ ในทุกวัน จนเขารู้จักได้ ก็เป็นเกียรติกับเรา เพลงหนูมันผ่านเข้าไปในหูเขาแล้วจ้า จริง ๆ แล้วหนูยินดีกับทุก ๆ คนที่เริ่มรู้จักหนู เพราะว่าหนูรู้จักทุกคนมาฝ่ายเดียวตลอด ได้ขึ้นเวทีใหญ่ไปแล้ว มองเป้าหมายในชีวิตตัวเองไว้ว่าอยากพิถีพิถันกับผลงานหนูให้มากขึ้น เราอยากเก่งขึ้นจริง ๆ

ตอนนี้เราก็พยายามเรียนรู้ให้มากขึ้น ส่วนเวทีไหนที่อยากจะขึ้นอีกไม่กล้าฝันเลย ครั้งนี้ก็เป็นโอกาสที่ดี ถ้ามีเข้ามาอีกก็จะทำเต็มที่ในทุก ๆ โอกาส ก็หวังว่าจะไปได้อีกทั้งวงการดนตรี หวังว่าเราจะไม่ได้ไปคนเดียว เพราะศิลปินของไทยเราเก่งมากจริง ๆ คนมองว่าช่วยขับเคลื่อนวงการเพลงไทยขอบคุณมาก เป็นเกียรติมาก แต่คิดว่าคงไม่ถึงขนาดนั้น ต้องเก่งกว่านี้อีก

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม phuckitol jacksonwang852g7 และ jungkook97