แฟน แมงมุม กิติพัฒน์ เคลื่อนไหว หลังชดใช้ 6 แสนอดีตผอ.

แฟน แมงมุม กิติพัฒน์ เคลื่อนไหว หลังชดใช้ 6 แสนอดีตผอ.

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่หลายคนนั้นสนใจเป็นอย่างมากซึ่งได้ออกมาชี้แจงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ แมงมุม กิติพัฒน์ หลังอดีตผอ.ร.ร. ออกมาร่ำไห้ผ่านสื่อ ต้องใช้เงินติดค้าง จากการเซ็นค้ำประกันให้แม่ดาราหนุ่ม ซึ่งเรื่องนี้ แมงมุม ยืนยันไม่เคยนิ่งนอนใจ เพียงแต่จัดลำดับการใช้เงินติดค้างไว้แล้ว

และตนเองเพิ่งมาตั้งตัวได้ประมาณ เกือบ 1 ปี ยอมรับผิดที่จัดการได้ช้าไป เพราะยังมีภาระหน้าที่อื่น ๆ ที่จะต้องรับผิดชอบด้วย ก่อนแนบหลักฐานการชำระหนี้ทั้งหมด 600,000 บาท ครบตามจำนวนที่ท่าน ผอ. เรียกร้อง ขอโทษที่ปล่อยให้เรื่องราวบานปลาย

ขณะที่แฟนสาวได้โพสต์ให้กำลังใจดาราหนุ่มด้วยว่า ให้โอกาสตัวเองได้อ่อนแอบ้างก็ไม่เป็นไร เธอเก่งที่สุดแล้ว อยู่ข้างๆ นะ โดยโพสต์ของ แมงมุม ก็ได้ชี้แจงดังนี้ เรื่องราวเป็นคดีที่เกิดกับคุณแม่ของผม เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ผมเพิ่งทราบเรื่องคดีนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วจึงเป็นที่มา

ที่ได้ไปเคลียร์กับคู่กรณีของคุณแม่ผมที่รายการโหนกระแส ก็จบความที่ว่า ผมในฐานะบุตรจะชดใช้และผ่อนจ่ายให้ ในตอนที่ตกลงนั้นพูดตรง ๆ เลยคือไม่มีเงินครับ ณ ช่วงเวลานั้น เพราะเป็นช่วงที่ผมไม่มีพอดี เงินติดค้างจากธุรกิจเก่าเยอะประกอบกับค่าตัวนักแสดงตอนนั้นก็ไม่ได้เยอะครับ

จึงใช้เดือนชนเดือนถึงติดลบมาโดยตลอด ผจก.ผมจะรู้ถึงความเป็นอยู่ผมในช่วงนั้นดี ต่อมาผมก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างตัวเพื่อที่จะให้ตัวเองมีกำลังพอที่จะพัฒนาฐานะทางการเงินของตัวเรา เพื่อที่จะใช้เงินติดค้างให้ตัวเองและของครอบครัว ย้ำนะครับ

ว่าเงินติดค้างม่ได้มีแค่ครั้งนี้ครับ ผมในฐานะหัวหน้าครอบครัว ก็พยายามที่จะเลี้ยงดูคุณแม่มาตลอดไม่ว่าตอนมีหรือตอนไม่มี ซึ่งระยะเวลาที่ผมสร้างตัวก็ราว ๆ 2-3 ปี ซึ่งยอมรับเลยครับว่าสาหัสมากทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจและช่วงCV ทำให้ธุรกิจทั้งหมดพัง ถ่ายละครก็ถ่ายไม่ได้

รู้สึกช่วงนั้นผมจะเป็นเทรนเนอร์ด้วยครับ ก็แน่นอนครับ ยิมปิด คุณพระ หาเงินจากที่ไหนล่ะเนี่ย แต่ในที่สุดผมก็ผ่านมันมาได้ ผมเพิ่งมาตั้งตัวได้ประมาณ เกือบ 1 ปี จึงได้เริ่ม จัดสรรเงิน ดังนี้ 1.เก็บเงินเพื่อรองรับความเสี่ยงต่าง ๆ 2.ลงทุน 3.ทำบุญ 4.ดูแลครอบครัว 5.ใช้ชีวิต 6.ใช้เงินติดค้าง

ผมได้ตั้งใจใช้เงินติดค้างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของตัวเองและครอบครัวมาตลอด ซึ่งโชคร้ายตรงที่คุณยายผมก็ไม่สบายพอดี ใครที่มีคนที่ต้องรักษาตัวอยู่ในบ้านจะรู้ได้เลยว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งทำให้ผมต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายในทุก ๆ ด้านให้ลงตัว

ให้ทุกคนรอบตัวผมไม่รู้สึกว่าขาดหรือรู้สึกว่าผมไม่มีหรือดูแลไม่ได้ ผมเองไม่เคยหนีหายหรือติดต่อไม่ได้แต่อย่างใด ทาง ผจก.ได้ยืนยันแล้วว่าไม่มีการติดต่อมาเพื่อทวงถามเงินติดค้างตลอด 3 ปีนี้หลังจากจบรายการโหนกระแส แต่ตัวผมเองไม่เคยนิ่งนอนใจในเรื่องเงินติดค้างครั้งนี้

เพียงแต่ผมจัดลำดับการใช้เงินติดค้างไว้แล้ว ซึ่งข้อนี้ผมยอมรับผิดที่ผมจัดการได้ช้าไปครับ เงินที่ผมได้มาในส่วนของการจัดสรรใช้เงินติดค้างผมได้จัดสรรไว้เป็นลำดับจะไม่ได้หามาเพื่อใช้เงินติดค้างให้หมดใน 1-2 เดือนเพราะยังมีภาระหน้าที่อื่น ๆ ที่จะต้องรับผิดชอบด้วย ตลอดเวลาที่ผมเติบโตมา

ผมแยกกันอยู่กับคุณแม่ตั้งแต่ อนุบาล 2 โดยมียายกับตาและน้า เลี้ยงมา แต่เมื่อผมโตขึ้นและได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหรือเรื่องอะไร ผมรับจบให้หมดเพราะผมคือบุตร ดังนั้น วันนี้ผมได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะบุตร โดยการชำระทั้งหมดให้กับคุณแม่

เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท ครบตามจำนวนที่ท่าน ผอ. เรียกร้อง และได้แนบหลักฐานไว้แล้วครับ สุดท้ายนี้ต้องขอโทษครอบครัว ขอโทษแฟน ขอโทษที่ปล่อยให้เรื่องราวบานปายไม่ได้ชำระจนทำให้เกิดความเสียในวันนี้ แต่ยังยืนยันในวันนี้ครับ ว่าผมทำเต็มที่และรีบสุดในชีวิตแล้วครับ ขอโทษทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ