เรียกได้ว่ายังคงหาคำตอบกันเรื่อยไปกับความคืบหน้าคดี แตงโม นิดา ตกเรือสปีดโบ๊ต ล่าสุด 9 พ.ค. 65 ที่โรงแรม นนทบุรี พาเลซ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้แถลงข่าวเปิดหลักฐานทวงคืนความยุติธรรมให้แตงโม ถึงขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จ

เผยว่า GPS เรือมีการแก้ไขหรือเสีย หลักฐานจึงไม่น่าเชื่อถือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรนำมาเป็นหลักฐานในคดี เพราะไม่น่าเชื่อถือนั้นส่วนกรณีโซเชียล ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับชายท่านหนึ่ง ซึ่งมีการขับเรือสปีดโบ๊ตในการช่วยตามหาเบาะแสของนางสาวแตงโมในวันพบ

แต่ปรากฏว่าเป็นคนแรกที่เจอ จากนั้นได้มีการเรียกให้กู้ภัยไปรับกลางแม่น้ำ แล้วถูกโซเชียลโยงว่าเสียงของบุคคลดังกล่าวมีความใกล้เคียงและคล้ายกับเสียงของคนบนเรือก่อนหน้านี้ที่พูดว่า เอาเพื่อนมานี่ นายจินดา วิริยะแสงจันทร์ หรือ จิน เดอะวอยซ์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสียง

นำไฟล์เสียงเดิมที่เป็นไฟล์เสียงของบนเรือ ที่มีนางสาวแตงโมนั่งอยู่บนเรือ และกำลังเปิดเพลง ก่อนที่จะถูกโซเชียลนำไปวิเคราะห์และจับผิดว่ามีเสียงคล้ายคนพูดแทรกขึ้นมาว่า เอาเพื่อนมานี่ เคยเป็นลักษณะเสียงคล้ายผู้ชาย ซึ่งได้นำเสียงจากไฟล์วิดีโอดังกล่าวมาเทียบกับไฟล์เสียง

ที่โซเชียลจับผิดเกี่ยวกับชายคนแรก มีการพบนางสาวแตงโม ขณะที่ขับเรือสปีดโบ๊ตผ่าน โดยจากการวิเคราะห์ ได้มีการปรับคุณภาพเสียง ลดเสียงแทรกลง เนื่องจากไฟล์เสียงทั้ง 2 มีความเหมือนคือมีเสียงแวดล้อมแทรกเข้ามา แต่ความต่างคือไฟล์ที่เป็นเสียงจากบนเรือ

มีเสียงเพลงและสภาพเสียงน้อยแวดล้อมค่อนข้างมาก แต่เสียงที่เป็นการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว มีเพียงแค่เสียงลมที่แทรกเข้ามาเท่านั้น จิน เดอะวอยซ์ วิเคราะห์ว่า เริ่มต้นจากคลิปเสียงของบนเรือ ซึ่งจับเสียงช่วงที่มีชายพูดขึ้นมาว่า เอาเพื่อนมานี่ เปิดวนซ้ำ

ก่อนที่จะเปิดเสียงของการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของชายคนแรกที่เจอ จากการวิเคราะห์วันนี้ยังไม่ขอฟันธง และไม่ยืนยันชัดเจน แต่ระบุว่า มีความคล้าย และความเหมือน เป็นเสียงของคนที่มีอายุวัยกลางคน แต่ความแตกต่างของเสียง

เสียงบนเรือจะเป็นลักษณะเสียงของคนพูดเสียงดัง แต่เสียงที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจะเป็นการเล่าและบรรยาย จึงทำให้เสียงที่เปล่งออกมามีความต่าง แต่ถ้าวิเคราะห์ตามลักษณะของคำพูดก็ถือได้ว่ามีความคล้าย แต่เสียงไม่สามารถที่จะยืนยันตัวตนได้ 100%

เนื่องจากถ้าหากจะยืนยันตัวตนได้ เสียงที่มาจะต้องเห็นใบหน้า หรือเป็นจากวิดีโอที่มีการยืนยันตัวบุคคลมากกว่า นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความฝั่งของแม่นางสาวแตงโม เปิดเผยว่า กรณีโซเชียลออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับชายท่านหนึ่ง

ซึ่งมีการขับเรือสปีดโบ๊ตในการช่วยตามหาเบาะแสของนางสาวแตงโมในวันพบ แต่ปรากฏว่าเป็นคนแรกที่เจอ จากนั้นได้มีการเรียกให้กู้ภัยไปรับกลางแม่น้ำ แล้วถูกโซเชียลโยงว่าเสียงของบุคคลดังกล่าวมีความใกล้เคียงและคล้ายกับเสียงของคนบนเรือก่อนหน้านี้ที่พูดว่า

เอาเพื่อนมานี่ ตนเองอยากจะให้เอามาเปิดเผยและเอามาฟัง เพราะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องของเสียงอะไร แต่ทั้งนี้ไม่อยากให้มีการโยง หรือพูดถึงประเด็นที่จะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด เพราะเป็นลักษณะคล้ายกับการเล่นตลกสามช่า

ดังนั้นถ้าหากมีหลักฐานหรือเสียงดังกล่าวที่ยืนยันและรู้ที่มาที่ไป หรือรู้ว่าใครเป็นคนพูด ก็ควรที่จะเอาออกมา และเอาคนคนนั้นออกมายืนยันด้วย ไม่เช่นนั้นจะเป็นการกล่าวหาแบบลอย ๆ

คลิก ชมวิดีโอ

ขอบคุณข้อมูล อมรินทร์ ทีวี ออนไลน์ ช่อง34HD

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews