เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นอย่างมากแะเพิ่งประกาศข่าวดีมาให้แฟน ๆ ได้ทราบกันไปไม่กี่วันมานี้ สำหรับสำหรับครอบครัวของ นักร้องหนุ่ม บีม กวี ตันจรารักษ์ และ ออย อฏิพรณ์ คุณพ่อคุณแม่ของบุตรชายทมั้ง 2 คนวัย 2 ขวบกว่า น้องพีร์ น้องธีร์ ที่ได้ออกมาแจ้งข่าวว่าตอนนี้กำลังมีบุตรอีก 1 คู่อีกครั้งแล้ว

ซึ่งตอนนี้อายุครรภ์ได้ประมาณ 12 สัปดาห์ ท่ามกลางคำยินดีจากเพื่อนพ้องร่วมวงการบันเทิง รวมถึงแฟน ๆ ที่เข้ามาแสดงความยินดีอย่างมากมายแต่ล่าสุดโลกโซเชียลก็พูดถึงกันอย่างมาก เมื่อมีแฟนคลับส่งคำถามไปหา พ่อบีม แม่ออย ว่า ถ้าสมมติว่า น้องพีร์ น้องธีร์ เป็น LGBT พ่อพ่อกับหม่ามี๊ จะสนับสนุนน้อง ๆ มั้ยคะ และมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไงคะ

ออย ก็เขาเป็นมันทำอะไรได้ เราต้องยอมรับ คือคำพพูดที่บอกว่าลูกจะเป็นอะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนดีอะมันคือจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าการเป็นคนเพื่อมาชดเชยในสิ่งที่เขาบกพร่องไปตรงนี้ไม่เกี่ยว บีม เป็นคนดีต้องเป็นคนดีอยู่แล้ว ออย ใช่ คือหมายความว่าไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไรอะ คุณควรจะต้องเป็นคนดี ไม่ว่าบุตรเราจะเป็นอะไร

ขอให้เขาเป็นคนดี นั่นคือคำตอบของออย สนับสนุนไหม ออย คำว่าสนับสนุนออยก็ต้องดูว่าบุตรอยากเวลไหน ถ้าสมมติว่าเขาก็เป็นของเขาแบบนี้แหละ เพียงแต่ว่าเขาก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตกับเพื่อน ๆ LGBT ของเขา หรือว่าเขาอาจจะมีแฟนอยู่ในแบบเดียวกัน แต่เขาไม่ได้คิดที่ว่าเขาอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างนี้ ก็ FINE

ก็เขาก็ใช้ชีวิตของเขาไปเหมือนเดิม แต่ถ้าวันที่เขาต้องการที่เขาจะเปลี่ยนแปลงตัวของเขา มันก็จะมีกระบวนการของมัน ก็กลับไปข้อแรก ๆ ว่าเราต้องตบกรอบความคิดของเขา ว่าบอกเขาว่าถ้าเปลี่ยนมันจะเป็นอย่างนี้นะ แม่ก็อาจจะต้องหาความรู้เพิ่มเติม มันไม่ใช่แค่ว่าอยากแล้วจบปึ้งเลย บีม อะ สรุปก็คือเธอสนับสนุนนั่นแหละ

ออย ก็คือสนับสนุน แต่ก็คือตามเลเวลที่บุตรพึงเป็น เสียใจไหม ออย ถ้าถามจริง ๆ แล้วอะ เรามีบุตรชายเราก็อยากให้เขาโตมาเป็นบุตรชาย ถ้าว่าถ้าเสียใจไหม มันคงไม่ได้เรียกว่าเสียใจ แต่มันคงเซอร์ไพรส์ มันคงมีช่วงนึงที่เราก็ต้องแบบนิดนึงแล้วแบบค่ะ ถ้าเขากล้าที่จะเดินเข้ามาบอก

หรือว่าวันนึงที่แบบโป๊ะแล้วเราไปเห็นหรืออะไรอย่างนี้ เราก็โอเค เข้าใจใช่ไหม บีม ก็คือเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าสมมติว่าเป็น ออย ก็เป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าคุยกันได้ บีม เราว่าสำคัญที่แบบต้องคุยกัน อยากให้เขารู้สึกว่าจะเป็นอะไรก็เดินมาบอก ออย ใช่ คือเราเป็นที่ปลอดภัยของเขา บีม ถ้าเกิดเขาเดินมาบอกแล้วเราจะรู้สึกเสียใจไหม

ก็เสียใจนะ พูดตรงๆ ก็คือยังไงก็เป็นบุตร ก็ยังรัก ซึ่งงานนี้โลกโซเชียลก็ได้เข้ามาเผยคำตอบของทั้งคู่บนโลกออนไลน์ พากันอย่างมาก บ้างก็มองว่า คำตอบของทั้งคู่ก็เข้าใจได้ และก็เป็นคำตอบที่ดีตามมุมของเขา เขาเองก็ยังสนับสนุนลูก ๆ แต่บ้างมองว่าทำไมถึงต้องเสียใจในเมื่อบุตรกล้าที่จะออกมาเปิดเผยตัวตนแล้ว

พ่อแม่น่าจะต้องเข้าใจก่อนว่าถ้าบุตรมาบอกว่าเป็น LGBTQ+ คือมาแจ้งให้ทราบ ไม่ได้ขออนุมัติ เรารู้สึกว่าบางทีพ่อแม่ก็ต้องการเวลาในการทำใจนะคะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำใจได้ตั้งแต่แรก ทุกคนอาจจะคาดหวังว่าพ่อต้องไม่ตีกรอบให้บุตร ต้องยอมรับทุกอย่างที่บุตรเป็น บางคนเค้ายอมรับและพร้อมจะเข้าใจ

ยังไงก็เป็นบุตรของเรา แต่บางอย่างก็ต้องใช้เวลาบ้างเหมือนกันค่ะ ใจเขาใจเรากันนะคะ จริงๆ น้ำเสียง ท่าทางคือยอมรับไม่ได้กับเรื่องนี้ แค่อยากจะฝากไว้ว่า คุณอยู่กับเขาตลอดชีวิตไม่ได้หรอก ถ้าสมมติว่าน้องเลือกที่จะเป็นในหนทางของตนเอง ก็ขอให้เข้าใจกันไว้น่าจะดีกว่าน่ะครับ

การมีคนในครอบครัวเป็น lgbtq+ ไม่เห็นน่าเสียใจตรงไหนเลย น่าเสียใจที่ประเทศนี้ไม่มีสวัสดิการรองรับ และไม่ยอมรับกลุ่มหลากหลายมากกว่า not all แล้วที่บ้านจะไม่ยอมรับเลยนะจนกว่าจะพิสูจน์ตัวเอง เช่น ประสบความสำเร็จ มีเงินเลี้ยงแม่เลี้ยงทั้งบ้าน คือแบบเพื่อ ทำไมต้องพิสูจน์ตัวเองด้วย

ในเมื่อนี่คือฉัน ฉันคือฉันแบบนี้ เรามองว่า คนเรามักคาดหวังตามสิ่งที่คุ้น และไม่ชอบอะไรที่ตัวเองไม่ชิน คนเราห้ามความคิดความรู้สึกกันไม่ได้หรอก เขาเสียใจก็เรื่องนึง แทนที่จะตัดสินเขาจากการที่เขารู้สึก ส่วนตัวเราว่าควรตัดสินเขาจากวิธีที่เขา treat คนอื่นดีกว่า สำคัญที่สุดคือเขาเปิดใจไหม treat คนอื่นยังไงนะเราว่า

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews