รวบ 2 หนุ่มบ้านห้วยหม้ายขนสุราเถื่อน 40 ถุง มีหนาวเสียค่าปรับ คนละ 8 แสนกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงวนว่าจากนโยบายของนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิตพร้อมคณะผู้บริหารกรมสรรพสามิต ได้มาตรวจราชการและมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้กับข้าราชการในสังกัดสานักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 ณ สานักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 อ.เมือง จ. เชียงใหม่เมื่อเร็วๆนี้ พร้อมสั่งการให้ผู้อำนวยการสานักงานสรรพสามิตภาคและสรรพสามิตพื้นที่ในสังกัดสานักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 ให้การกำกับดูแลสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษี รวมถึงดาเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามสุราเถื่อน บุหรี่เถื่อน รวมทั้งสินค้าอื่น ๆ ที่อยู่ในความควบคุมของกรมสรรพสามิต พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดปราบปรามผู้กระทาผิดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
ทางด้านสรรพสามิตพื้นที่แพร่ ได้ปฏิบัติกวดขัน จับกุมมาอย่างต่อเนื่อ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 นายประดิษฐ์ ศรีกองหนุน สรรพสามิตพื้นที่แพร่ ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการกระทาผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ว่าจะมีการลักลอบขนสุราที่ยังไม่ได้ชาระภาษีออกจากโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นชุมชน ในเขตตาบลห้วยหม้าย อาเภอสอง จังหวัดแพร่ ไปส่งให้กับลูกค้าในเขตอาเภอลองและอาเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ จึงได้มอบหมายให้นายณฐพบ อินทร์ปรา เจ้าพนักงานสรรพสามิตชานาญงาน หัวหน้าสายตรวจที่ 1 พร้อมด้วย นายราเชนทร ธงตั๋นเจ้าพนักงานสรรพสามิตชานาญงาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ 1 เข้าดาเนินการสืบสวนหาข่าว
จนสามารถจับกุมผู้กระทาผิดขณะทาการขนสุราที่ยังไม่ได้ชาระภาษี ได้จานวน1 ราย ผู้ต้องหาจานวน 2 คน คิแ นายอมร (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี บ้าน หมู่ 7 ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่ และ นายวิชากร(สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี บ้านเดียวกัน พร้อมของกลางเป็นสุรากลั่นชนิดสุราขาวบรรจุถุงพลาสติก จานวน 40 ถุง น้าสุราประมาณ 960 ลิตร โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อTOYOTA สีทอง หมายเลขทะเบียน บน 5792 เป็นพาหนะที่ใช้ในการกระทาผิดซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันนาสินค้าที่ยังมิได้เสียภาษีโดยถูกต้องและครบถ้วนออกไปจากโรงอุตสาหกรรม, ร่วมกันมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี, ร่วมกันมีไว้ในครอบครอบซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 เวลา 03.00 นาฬิกา บริเวณถนนเลียบคันคลองชลประทานฝั่งซ้ายตาบลทุ่งแค้ว อาเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ จึงได้นาตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตารวจภูธรหนองม่วงไข่ อาเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่เพื่อดาเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป คิดเป็นเงินค่าภาษีสุรา จานวน 53,927.52 บาท(ห้าหมื่นสามพันเก้าร้อยยี่สิบเจ็ดบาทห้าสิบสองสตางค์) ซึ่งมีอัตราโทษตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 186 จาคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่ห้าเท่าถึงยี่สิบเท่าของค่าภาษีที่จะต้องเสีย หรือทั้งจาทั้งปรับ มาตรา 203 ปรับตั้งแต่สองเท่าถึงสิบเท่าของค่าภาษี มาตรา 204 จาคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับตั้งแต่ห้าเท่าถึงสิบห้าเท่าของค่าภาษีที่จะต้องเสีย คิดเป็นเงินค่าปรับคนละประมาณ 808,912.80บาทรวมผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นเงินค่าปรับประมาณ 1,617,825.60 บาท (หนึ่งล้าน-หกแสนหนึ่งหมื่นเจ็ดพันแปดร้อยยี่สิบห้าบาทหกสิบสตางค์)
นายประดิษฐ์ ศรีกองหนุน สรรพสามิตพื้นที่แพร่ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ถึง เมษายน 2565 สานักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ สามารถจับกุมผู้กระทาผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ได้จานวนรวมทั้งสิ้น 316 ราย เปรียบเทียบปรับ 312 รายส่งฟ้องศาลจานวน 4 ราย อยู่ระหว่างดาเนินงานของพนักงานสอบสวน จานวน 1 รายเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 4,339,892.43 บาท สี่ล้านสามแสนสามหมื่นเก้าพันแปด-ร้อยเก้าสิบสองบาทจะเห็นได้ว่าโทษและอัตราการปรับภาษีสุรานี้สูงมาก เพราะฉะนัน้นผู้ประกอบการเกี่ยวกับสุราต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมาย
ข่าวโดย สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดแพร่