บริษัทโกโก้โผล่แจงแล้ว เหตุยังไม่ได้รับซื้อ
วันที่ 29 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ มีเกษตรกรหลายหมู่บ้านใน ต.โคกปรง และ ต.ยางสาว อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ที่เคยทำไร่ข้าวโพดและปลูกพืชผัก แล้วหันไปปลูกทำสวนโกโก้ เนื่องจากมีบริษัทเอกชนรายหนึ่งจาก จ.กำแพงเพชร มาชักชวนให้ไปศึกษาดูงาน และเยี่ยมชมโรงงาน พร้อมทั้งนำต้นกล้าพันธุ์โกโก้มาเสนอขาย เพื่อให้เกษตรกรหันมาปลูกทำสวนโกโก้ โดยอ้างว่าโกโก้เป็นพืชเศรษฐกิจ และเป็นพืชแห่งอนาคต ที่มีการนำไปแปรรูปทำเป็นช็อกโกแลต หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ
อาทิ อาหารเสริม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ชนิดต่างๆ รวมทั้งการปลูกทำสวนโกโก้ ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 50 ถึง 60 ปี และเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในระยะเวลาเพียง 1 ปี แปดเดือน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เดือนละถึง 2 ครั้ง และจะมีการทำสัญญาประกันราคารับชื้อผลผลิตผลสด ราคากิโลกรัมละ 10 บาท ไม่คัดไซส์ ตลอดระยะเวลา 8 ปี แต่พอเกษตรกรที่หลงเชื่อ ซื้อต้นกล้าพันธุ์ของบริษัทดังกล่าวมาปลูกในราคาต้นละ 50 บาท โดยพื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 100 ต้น หรือไร่ละ 5,000 บาท แต่พอได้ผลผลิตออกมา กลับถูกบริษัทดังกล่าวทิ้งไม่มารับซื้อตามสัญญา ทำให้เกษตรกรหลายรายที่กู้หนี้ยืมสินมาลงทุนกันรายละหลายหมื่นบาท กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เกษตรกรเพชรบูรณ์ ถูกหลอกขายต้นโกโก้ สัญญา 8 ปี รับซื้อโลละ 10 บาท แต่ลงทุนแล้วหาย)
ล่าสุดวันนี้ คณะผู้บริหารบริษัท เค.ยู.เอ็น.โกโก้ เน็ตเวิร์ก จำกัด ได้เดินทางมาที่หมู่ 11 บ้านวังเตียน ต.โคกปรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เพื่อพบทำความเข้าใจกับเกษตรกรที่ปลูกทำสวนโกโก้ พร้อมนำผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากโกโก้ต่าง ๆ อาทิ ช็อกโกแลต อาหารเสริม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดต่างๆ มาให้เกษตรกรชมเพื่อความมั่นใจว่า ทางบริษัทยังเดินหน้าทำธุรกิจโกโก้อยู่ ส่วนที่ขาดการติดต่อเป็นเพราะข้อมูลรายชื่อเกษตรกร ถูกฝ่ายส่งเสริมที่เคยทำงานร่วมกับบริษัท ลบออกจากระบบจัดเก็บของบริษัททั้งหมด และพอเห็นการเสนอข่าวจากทางทีวี จึงทราบเรื่องและเดินทางมา
นายคณินชัย ปิ่นทอง ประธานบริษัท เค.ยู.เอ็น.โกโก้ เน็ตเวิร์ก จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้ซื้อผลผลิตโดยตรงจากเกษตรกร แต่ทางบริษัทรับซื้อผลผลิตผ่านฝ่ายส่งเสริม ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดจาก ฝ่ายส่งเสริมที่เคยทำงานอยู่กับบริษัท ได้แยกตัวออกไปตั้งบริษัทใหม่และได้ลบข้อมูลทั้งหมด พร้อมกับนำสัญญารายชื่อเกษตรกรที่ทำไว้กับทางบริษัทออกไปด้วย ทำให้บริษัทไม่มีข้อมูลและรายชื่อของเกษตรกรกลุ่มนี้ ซึ่งหลังเกิดปัญหา บริษัทได้ลงเพจแจ้งเกษตรกรว่า ใครก็ตามที่เคยทำสัญญากับคนกลุ่มนี้ ขอให้ติดต่อมาที่บริษัทด่วน เพราะทางบริษัทไม่มีข้อมูลในการติดต่อ ตนในนามบริษัทยืนยันว่า ยังซื้อโกโก้ทั้งหมดที่ทำสัญญากับทางบริษัท แต่เนื่องจากเกษตรกรกลุ่มนี้ทางบริษัทไม่มีข้อมูล
นายคณินชัย กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่เห็นข่าวและทราบว่า เกษตรกรที่นี่ได้รับความเดือดร้อน ทางบริษัทจึงได้รีบเดินทางมาเพื่อทำสัญญากับเกษตรกร และยืนยันว่ากลุ่มที่เคยทำสัญญากับเกษตรกรก่อนหน้านี้ ไม่ใช่คนของบริษัทเคยูเอ็น และขอสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรว่า ทางบริษัทเดินหน้าเต็มที่และยืนยันว่าไม่ล้นตลาด เรายังมีความต้องการสูงมาก และเพื่อความมั่นใจแก่เกษตรกร ทางบริษัทได้นำผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากลูกโกโก้ ซึ่งมีมากมายหลายชนิดทั้งของกินและของใช้
ด้าน นายประสาส์นชัย คงอรุณ รองประธานบริษัท กล่าวว่า ในส่วนที่ดูจากการนำเสนอข่าวเกษตรกรเข้าใจว่าถูกทอดทิ้ง โดยไม่เข้าใจว่าสามารถติดต่อบริษัทได้ จริงๆแล้วบริษัทมีเบอร์โทรมีที่ติดต่อ รวมถึงมีสัญญารับซื้อคืนผลผลิต ท่านสามารถเข้าไปพบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รู้จักบริษัทดี ถ้ามีปัญหาสามารถสอบถามได้ทั้งเกษตรอำเภอหรือเกษตรจังหวัด ตนในฐานะผู้บริหารบริษัทไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เพราะเรารับผิดชอบเหมือนเดิม และต่อไปถ้ามีข้อข้องใจให้ติดต่อไปที่บริษัทโดยตรง
ขณะที่ นายสมัย ภิรมกิจ เกษตรกรที่ปลูกโกโก้ ต.ยางสาว อ.วิเชียรบุรี เปิดเผยว่า ตนและเกษตรกรทุกคนรู้สึกดีใจ ที่ประธานบริษัทได้มาชี้แจงว่า ทางบริษัทยังดำเนินกิจการตามปกติ แต่ที่ผ่านมามีบุคคลบางคนได้ใช้ชื่อบริษัทนี้มาดำเนินธุระกิจหลอก โดยพวกเราไม่รู้ตัวว่าพวกเราเกษตรกรถูกหลอก จนพวกเราได้ร้องต่อสื่อและเมื่อสื่อได้นำเสนอข่าวออกไป เมื่อทางบริษัทรับทราบทางบริษัทได้ลงมาพูดคุยและรับปากว่า จะให้การดูแลและสนับสนุนรับซื้อโกโก้จากเกษตรกรตามสัญญา ทำให้ตนและเกษตรกรรายอื่นๆมีความหวังว่า ปลูกโกโก้แล้วจะไม่ถูกทอดทิ้ง ต่อจากนี้พวกตนก็พร้อมที่จะเข้าไปดูแลผลผลิตจากโกโก้ เพื่อเตรียมรวบรวมในการนำโกโก้ส่งโรงงานตามที่เงื่อนไขกำหนด ในการทำสัญญากับบริษัทวันนี้ก็เป็นสัญญาฉบับเดิม เงื่อนไขเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากมาเป็นการทำสัญญากับตัวแทนคนใหม่ของบริษัท เท่านั้น
ข่าวโดย อารีย์ สีแก้ว ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเพชรบูรณ์