งัดจีพีเอสสำคัญโชว์ ความเร็วเรือดูดร่างแตงโมจริง
เป็นที่จับตามากมองทั่วทั้งประเทศ สำหรับการแถลงข่าวสรุปสำนวนคดีแตงโม นิดา หรือ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ จนสู่คดีความที่ยาวนานเข้าสู่เดือนที่ 2 ซึ่งวันนี้ 26 เมษายน 2565 มีการแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลคดีแตงโม เพื่อเป็นการชี้แจ้งสรุปสำนวนให้ทราบ แต่ยังไม่มีการปิดคดี แต่อย่างใด ตามที่สื่อได้นำเสนออกไป
สั่งฟ้องดำเนินคดีผู้ต้องหา เป็นคนบนเรือ 5 ราย และกุนซือ 1 ราย คือ โรเบิร์ต ไพบูลย์ ปอ ตนุภัทร แซน วิศาพัช จ็อบ นิทัศน์ กระติก อิจศรินทร์ ภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม
ล่าสุด นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด เจ้าของพัทยาวอเตอร์สปอร์ตคลับ ตัวแทนบริษัทกามินประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัท GPS เรือลำที่เกิดเหตุ ได้มีการถอดข้อมูลของ GPS เรือลำที่เกิดเหตุ เป็นช่วงเวลาตามที่มีการแถลงข่าวของตำรวจ 22.34น. ของคืนวันที่ 24 ก.พ. 65 โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเดินเรือ ความเร็วของเรือ รวมทั้งพิกัดของเรือในขณะที่เกิดเหตุ
โดยมีการมอบให้ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เป็นสำนักข่าวเดียว ข้อมูลจากตาราง GPS เรือช่วงเวลาประมาณ 22.34 น. ได้มีการถอดข้อมูลออกมาประมาณ 4 ช่วง คือ 22.34.01, 22.33.04, 22.34.12, 22.34.18 เป็นการยืนยันความเร็วของเรือวิ่งที่ 8 นอต โดยไม่ใช่ช่วงที่ความเร็วเรือกระตุกอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว
นายกิตติภัฎ บอกว่า ตนเองเข้ามารู้จักและช่วยทำข้อมูล GPS ส่งให้กับตำรวจ เป็นเพราะทำหน้าที่ในฐานะอาสากู้ภัยทางน้ำและทางทะเล หลังจากทราบว่าแตงโมตกน้ำก็ได้นำอุปกรณ์เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือในการค้นหา แต่ปรากฏว่าวันที่เข้ามาถึงที่เกิดเหตุมีการพบศพแล้ว จึงได้ให้ทีมงานนำเครื่องมือและอุปกรณ์ไปช่วยในการหาพยานหลักฐานทางคดีแทน แต่ตนเองในฐานะที่เป็นคนทำข้อมูล GPS ส่งให้กับตำรวจ ขอยืนยันกับสังคมอีกครั้งว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล และในวันนั้นตนเองก็ทำหน้าที่ในการดึงข้อมูลออกจาก GPS เลย ส่งเป็นระบบเอสดีการ์ดให้กับตำรวจ เพื่อนำไปปรินต์เป็นเอกสารมากกว่า 2,000 แผ่น ดังนั้นก็ยืนยันว่าไม่มีขั้นตอนไหนที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
ส่วนที่นายอัจฉริยะบอกว่าอยากได้เอสดีการ์ดนั้น ตนเองแนะนำว่าให้ไปขอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะการ์ดที่มีการดึงออกมาจาก GPS เรือได้มีการส่งให้กับตำรวจไปแล้ว หรือถ้าอ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ ถ้าหากมีความเชี่ยวชาญหรือเก่งเรื่องเรือจริง ขอแนะนำว่าให้ไปคุยกับตำรวจ หรือไม่ก็ไปดึงข้อมูล GPS เรือที่จอดเอาไว้ จะได้เชื่อว่าไม่มีการปรับเปลี่ยนข้อมูล หรือส่งคนมาคุยกับตนเอง และมาดูข้อมูลพร้อมกัน จะได้ยืนยันว่าไม่ได้มีการแก้ไขข้อมูล ทุกอย่างมีความเชื่อมโยงและตรงกันหมด
กรณีที่ พ.ต.ท.สันธนะ และนายอัจฉริยะ ได้มีการติดต่อส่วนตัวมาเพื่อที่จะส่งคนมาขอข้อมูล GPS ส่วนตัวก็ไม่ขัดข้อง ดังนั้นถ้าหากส่งคนมาพูดคุยหรือมาแลกเปลี่ยนข้อมูล ตนเองในฐานะอาสากู้ภัย แล้วทำงานจิตอาสามานานก็พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้ทุกอย่างเกิดความกระจ่าง
จากข้อมูลที่ตนเองเปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เกี่ยวกับข้อมูล GPS เรือช่วงเวลาเกิดเหตุ ตำแหน่งของเรือในช่วงเวลาเกิดเหตุ การถอดข้อมูลดังกล่าว ก็เพื่อต้องการที่จะให้สังคมเข้าใจว่าเป็นช่วงที่เรือวิ่งด้วยอัตราความเร็วคงที่ 8 นอต แต่ความเร็วดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาที่เรือกระตุก ฉะนั้นการตกจากเรือของแตงโมจึงเป็นเรื่องของการให้การของคนบนเรือ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูล GPS ของตนเอง เพียงแค่ต้องการยืนยันว่าเรือไม่ได้มีการกระตุกวิ่งด้วยอัตราความเร็วคงที่ และความเร็ว 8 นอต จะเป็นลักษณะคลื่นน้ำแบบตีฟองก้อนใหญ่
เป็นคลื่นที่ชิดกับบอร์ด แต่ไม่ได้ท่วม แต่ถ้าหากมีการวิ่งด้วยอัตราความเร็วเกินกว่า 10 นอต จะเรียกว่าเรือเพรนน้ำ ดังนั้นจากข้อมูล GPS ทราบว่าเรือวิ่งด้วยความเร็วเพียงแค่ 8 นอต จะไม่ใช่การเพรนน้ำแน่นอน ความสำคัญของคลื่นน้ำส่งผลกระทบต่อการจมน้ำ และการรอดจากการตกเรือ หากข้อมูล GPS ยืนยันว่าเรือวิ่งด้วยความเร็ว 8 นอต แล้วเป็นคลื่นน้ำตีฟองเยอะ เวลาตกลงไปจะสำลัก หรือจะทำให้วนอยู่กับคลื่น ขึ้นอยู่กับว่าจะถูกพัดไปในทิศทางใด แต่ถ้าหากเรือวิ่งลักษณะเพรนน้ำ มวลน้ำจะแข็ง ตกจากเรือจากกระเด้ง ไม่จม โดยคลื่นดังกล่าวมักจะใช้สำหรับการเล่นเซิร์ฟ ฉะนั้นจึงยืนยันชัดเจนแล้วว่าเรือวิ่งด้วยความเร็วเท่าไรและทำไมแตงโมถึงตกน้ำและจม ไม่ได้กระเด้งอย่างที่ตนเองพูดถึง
นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ตนเองถูกโยงเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเจ้าของอู่หรือ NBC ตนเองมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถือว่าทำงานในวงการนี้มานานเกือบ 20 ปี ทุกคนก็จะรู้จักกัน และที่สำคัญตนเองก็ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับทางธุรกิจเรือ ไม่ต่างจากกลุ่มที่ตีกอล์ฟหรือมีสมาคมร่วมกัน เวลาที่ไปไหนมาไหนก็อาจจะมีการถ่ายภาพ และรู้จักกันเป็นเรื่องปกติ ด้วยเหตุบังเอิญเจ้าของอู่เรืออาจจะเป็นนายธนกฤษ และตนเองดันมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ GPS แล้วตำรวจเชิญเข้ามาร่วมเท่านั้น ทั้งหมดก็ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ดังนั้นจึงขอให้สังคมอย่านำไปโยง หากไม่เข้าใจอะไรให้มาถาม และการที่ตนเองออกสื่อหรือให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ก็ไม่ต้องการที่อยากจะโด่งดัง เพราะปกติก็ชอบทำอะไรแบบนเงียบ ๆ ประกอบธุรกิจหรือทำการแข่งขันกิจกรรมทางน้ำ ไม่อยากมีผลกระทบอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวของตำรวจ ตนเองได้มีการพูดลักษณะว่าตำรวจเก่ง คำพูดดังกล่าวเป็นเพราะตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกถามข้อมูลเกี่ยวกับ GPS เรือ ช่วงเวลาต่าง ๆ เพื่อยืนยันเกี่ยวกับตำแหน่งของเรือ เอาไปเชื่อมโยงกับหลักฐานเกี่ยวกับภาพถ่ายคนบนเรือ ข้อมูลการโทร ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ทำให้ทุกอย่างคลายข้อสงสัย ตนเองก็เพียงแค่ชมในฐานะที่ตำรวจสามารถนำข้อมูลไปปะติดปะต่อจนทำให้คดีเกิดความกระจ่างได้เท่านั้น