ทนายเอ็มเผยความจริง แก๊งเรือสปีดโบ๊ตปิดห้องคุย เขียนภาพพิกัดสำคัญ

ทนายเอ็มเผยความจริง แก๊งเรือสปีดโบ๊ตปิดห้องคุย เขียนภาพพิกัดสำคัญ

วันที่ 9 เม.ย.65 มีรายงานว่า นายอนุชา เพชรศิริ หรือ ทนายเอ็ม อายุ 32 ปี ทนายความ ที่ถูกโยงก่อนหน้านี้ว่าเป็นกุนซือ นายเอ็ม 2 ในการแต่งสคริปต์ให้กับบุคคลบนเรือสปีดโบ๊ตในคดีแตงโม ตัดสินใจเปิดเผยตัวตนพร้อมกับออกมาชี้แจง รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ทนายเอ็ม นำเอกสารการจัดตั้งบริษัท S.M.Law เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีชื่อของนายเอ็ม 1 ปรากฏว่าเป็นกรรมการหรือถือหุ้นภายในบริษัทของตนเอง เพราะชื่อในการถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัทมีเพียงทนายเอ็ม และนางสาวหญิง ภรรยาของทนายเอ็มเท่านั้น มีการโชว์เอกสารยืนยันว่าเป็นทนายความที่มีการรับใบอนุญาตเป็นทนายความ หรือตั๋วเป็นทนายความมาแล้วกว่า 10 ปี

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ทนายเอ็ม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 65 เวลาหลัง 12.00 น. ตนเองเสร็จงานที่ศาลอาญารัชดา จึงได้ติดตามการทำงานของทีมทนายคนอื่นในทีมสำนักงาน ปรากฏว่าในขณะนั้นมีทนายเบนซ์ และทนายริว เสร็จงานก่อน จึงให้เดินทางไปล่วงหน้าเพื่อเจอกับคนบนเรือที่นัดไว้ที่ร้านอาหารทองหล่อ สุขุมวิท แล้วตัวเองเสร็จงานช้าจึงเดินทางตามหลังไป ทิ้งห่างประมาณ 1 ชั่วโมง

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

แต่เมื่อเดินทางไปถึงทีมทนายของตน ได้มีการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว ตนเองจึงได้ไปพูดคุยซ้ำ เพื่อสอบถามยืนยันตามเรื่องราวที่นายปอ นางสาวกระติก และแซน เล่าให้ฟัง โดยยังคงยืนยันว่าเป็นเหตุและประมาท เพราะทุกคนพูดตรงกันว่าเป็นเหตุ

ตนเองจึงได้ให้แนวทางและพูดคุยเกี่ยวกับข้อกฎหมายให้ฟัง จากนั้นก็มีการพูดคุยถึงในประเด็นอื่น โดยเฉพาะตำแหน่งที่อยู่ในเรือก่อนและหลังเกิดเหตุ ลำดับเหตุการณ์ การดื่ม ซึ่งก็ไม่ได้ลงดีเทลเกี่ยวกับจำนวนขวด แต่ทราบว่าทุกคนในเรือมีการดื่ม มีทั้งไวน์และแชมเปญ แต่วันนั้นยืนยันว่าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการทำลายหลักฐาน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

สุดท้ายได้มีการตอบเกี่ยวกับประเด็นข้อสงสัยเรื่องข้อกฎหมายอื่น และพระราชบัญญัติอื่นที่อาจจะมีความผิดโดยเฉพาะเรื่องของการขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต เมื่อทั้งหมดได้มีการพูดคุยกันแล้วได้มีการตกลงที่จะเดินทางไปพร้อมกันที่โรงพักนนทบุรี เพราะตำรวจมีการนัดหมายให้ไปเจอในเวลา 17.00 น. แต่ในการเดินทางไปนั้น เป็นเพียงแค่ไปร่วมรับฟังกับว่าที่ลูกความ แต่ยังไม่ได้มีการจ่ายเงินหรือตัดสินใจว่าจ้าง

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ระหว่างที่มีการแยกย้ายออกจากร้านอาหารย่านสุขุมวิท จำได้ว่าเป็นช่วงเวลาหลัง 15.00 น. ต่างคนต่างเดินทางด้วยรถส่วนตัว แต่ตนเองเดินทางไปที่หลัง เป็นจังหวะที่ตนเองกำลังขับรถขึ้นทางด่วน อยู่ช่วงด่านพระราม 9 เป็นช่วงที่นายเอ็ม 1 โทรศัพท์เข้ามาพอดี แล้วแจ้งว่า คนบนเรือกำลังไปนัดหมายเจอกับทนายดัง หลังจากที่ตนเองรู้จึงตัดสินใจที่จะยกเลิกและไม่เดินทางไป

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ประกอบกับเงื่อนไขก่อนหน้านี้ ที่กลุ่มคนบนเรือต้องการที่จะให้ตนเองออกสื่อฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว แต่ด้วยการทำงานของตนเองชอบทำงานแบบส่วนตัว ไม่ต้องการออกสื่อทำให้ไม่สามารถที่จะเป็นไปตามเงื่อนไขโดยสมบูรณ์ของกลุ่มคนบนเรือได้

ประกอบกับเรื่องที่ล่าสุดได้มีการไปนัดหมายคุยกับทนายดัง ทำให้ตนเองตัดสินใจที่จะไม่รับเป็นทนายความ และไม่เดินทางไปที่โรงพักนนทบุรี แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้น ทนายดังก็ไม่ได้ตัดสินใจรับเป็นทนายความให้กับคนบนเรือ ทำให้นางสาวภัช พี่สาวของนายปอ เป็นคนโทรศัพท์มาง้อให้ตนเองกลับไปร่วมทีม แต่ด้วยตนเองถูกทนายคนอื่นตัดหน้าไปแล้ว

ทั้งที่ตนเองก็เป็นคนเดินทางไปคุยด้วยที่ร้านอาหารแท้ ๆ จึงปฏิเสธไม่รับเป็นทนายความ และด้วยพี่สาวของนายปอต้องการที่อยากจะให้ตนเองไปร่วมทีม จึงเปลี่ยนจากให้เป็นทนายความ มาร่วมเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย แต่ตนเองก็ยังคงปฏิเสธดังเดิม

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ทั้งนี้ จากกรณีกระแสสังคมที่มองว่าตนเองเป็นกุนชือแต่งเรื่องให้กับคนบนเรือท่องสคริปต์ในคดีของนางสาวแตงโม จึงขอยืนยันว่า ไม่ได้รู้เห็นและมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตนเองเดินทางไปร่วมรับฟัง และพิจารณาเกี่ยวกับการกระทำว่าจะผิดกฏหมายหรือถูกแจ้งความอะไรบ้าง แต่อย่าลืมว่าตอนที่ไปพูดคุยทุกคนให้การตรงกัน และเราตรงกันแล้วว่าเป็น เหตุ

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ทำให้ตนเองไม่ได้มีการไปแต่งเรื่องหรือให้คนบนเรือต้องพูดตาม และไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มีใครแนะนำหรือพูดให้ทุกคนต้องพูดในลักษณะแบบนั้น , ภายหลังที่ตนเองตัดสินใจไม่ได้ร่วมทีมเป็นทนายความส่วนตัวให้กับคนบนเรือ ก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เดินทางไปว่าความในต่างจังหวัด และไม่ได้สนใจเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอีก

ทนายเอ็มได้มีการเปิดเอกสารการพูดคุยและยืนยันกับกลุ่มคนบนเรือ เกี่ยวกับตำแหน่งและจุดยืนภายในเรือวันเกิดเหตุ โดยเรือลำดังกล่าวได้มีการวาดผังและตำแหน่งชื่อของคนที่อยู่ก่อนเกิดเหตุ เป็นเอกสารที่มีการส่งให้กับพนักงานสอบสวนในคดี โดยมีการบันทึกรับรองและลงลายมือชื่อของตำรวจ ลงวันที่ 7 มี.ค. 65 มีข้อความระบุฝั่งขวาว่า โมตกน้ำ ซึ่งเป็นคำที่แซนพูดตอนเขียนเอกสาร

อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ