สาวเจอมือปริศนาโผล่ข้างกำแพง รื้อห้องเป็นรู ซ้ำก่อสร้างจนฝุ่นตลบ
เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ต่างประเทศชื่อ ettoday รายงานว่า หญิงไต้หวันรายหนึ่งที่กำลังเผชิญความน่ากลัวและหวดผวา เมื่ออยู่ ๆ ฉากกั้นข้างกำแพงของเธอถูกพังไปต่อหน้า โดยฝีมือคนงานก่อสร้างของบ้านข้าง ๆ แถมยังต้องเผชิญเรื่องราวสุดปวดหัวที่ตามมาจากปัญหาดังกล่าว ทั้งเสียง ฝุ่น และสุขภาพจิตที่พังไป จนอยากถามคนอื่น ๆ ว่าเจอแบบนี้ จะเรียกตำรวจมาดีหรือไม่
เธออาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์กับบุตรและสามี ภายในแต่ละห้องจะมีการทำช่องหน้าต่างไว้ข้างกำแพง เพื่อให้สะดวกแก่การติดตั้งแอร์ในอนาคต ซึ่งปกติเธอก็มักจะปิดช่องนี้ไว้ด้วยฉากกั้น
อยู่ ๆ วันหนึ่งก็มีการก่อสร้างขึ้นที่ห้องข้าง ๆ ซึ่งแม้จะเสียงดังอยู่บ้างมันก็ยังพอรับได้ แต่สิ่งที่ทำให้เธอผวาหนักก็คือ ระหว่างที่เธอกำลังกินข้าวกับลูกสาวอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงดังปึงปัง ก่อนจะมีมือปริศนาสอดเข้ามาในห้องเธอจากแผงกั้นนั้น และเริ่มรื้อแผงกั้นดังกล่าวออกโดยไม่บอกไม่กล่าว
จากนั้นเธอก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพและถามอีกฝ่ายว่า พวกคุณจะทำอะไร มีคนอยู่ในนี้นะ แต่อีกฝ่ายกลับเมินเสียงร้องของเธอ ยังคงรื้อฉากกั้นดังกล่าวต่อไปจนพังออกหมด ในตอนนั้นเธอจึงได้รู้ว่าคนที่พังแผงกั้นข้างกำแพงห้องเธอ ก็คือคนงานก่อสร้างของห้องข้าง ๆ แต่เมื่อคนงานรู้ว่ามีคนอยู่บ้านของเธอ กลับอ้างง่าย ๆ บอกนึกว่าตรงนี้เป็นห้องบันได ไม่คิดว่าจะมีคนอาศัยอยู่
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอโมโหมาก เธอบอกเลยว่าแม้เจ้าของที่ดินจะอนุญาตให้พวกเขาทำการก่อสร้างในห้องนั้นได้ แต่ทางเจ้าของที่ รวมถึงเธอกับสามี ไม่เคยรู้มาก่อนว่าพวกเขาจะมารื้อฉากกั้นข้างกำแพงของห้องเธอแบบนี้ โดยไม่บอกก่อนล่วงหน้า
และสิ่งที่ครอบครัวของเธอต้องเผชิญหลังเหตุการณ์ผวาในครั้งนั้น ก็คือสารพัดกลิ่นบุหรี่ที่ลอยเข้ามาในห้อง มันฉุนจนเธอแทบจะอ้วก แถมห้องของเธอยังเละสุด ๆ จากสารพัดฝุ่นและเศษสกปรกจากการก่อสร้างที่ลอยเข้ามา ทั้งเนื้อตัวเธอไปจนถึงพื้นห้องล้วนเต็มไปด้วยฝุ่น ไม่นับรวมเสียงดังที่เกิดขึ้น ก่อนจะมีคนงานเข้ามาช่วยเทปูนปิดกำแพงนั้น
เธอยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีอย่างมากจนอยากถามคนอื่น ๆ ว่าเจอแบบนี้ ควรจะเรียกตำรวจมาดีหรือไม่ และย้ำว่าเธอผวาจนแทบจะร้องไห้ ตอนที่อยู่ ๆ ฉากกั้นข้างกำแพงห้องถูกรื้อไปเช่นนั้น
ขณะที่ชาวเน็ตเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างก็บอกเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก และสนับสนุนให้เธอโทร. แจ้งตำรวจทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday